BRUCE WAYNE OFF DUTY

Last updated: 4 พ.ย. 2562 | 2320 จำนวนผู้เข้าชม |

ผมใช้รถ Lamborghini มาหลายรุ่นหลายเจเนอเรชันด้วยกัน รุ่นที่ผมรู้สึกผูกพันมากที่สุดคือรุ่นAventador ซึ่งเป็นรถที่ผมใช้นานที่สุด 3 ปีกว่า คันอื่นๆ เฉลี่ยแล้วประมาณปีหนึ่งถึงปีครึ่ง บางคัน 2 ปีก็มี แต่คันนี้ผมใช้มานาน 3 ปีกว่า ก็รู้สึกชอบเพราะคันนี้ตอนที่เขาเปิดตัวที่อิตาลีเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เห็นได้เลยว่าทุกอย่างเปลี่ยนหมด มีรูปทรงที่เหมือนยานอวกาศ ระบบไฟฟ้าทุกอย่าง ปุ่มกดฟีเจอร์ต่างๆ ภายในรถเขาออกแบบมาให้เหมือนเครื่องบินรบและใช้ประตูปีนกเราก็เลยชอบ ซึ่งพอได้ขับจริงๆ ก็สมคำร่ำลือแล้วก็คุ้มกับที่รอคอย ซึ่งเชื่อไหมว่าผมขับไปหมื่นกว่ากิโลฯ คันอื่นนี่ขับแค่ไม่กี่พันกิโลฯ เดินทางไปไหนก็รวดเร็วและสะดวก ไปพารากอนเจอรถติดแค่ไหนก็ไม่มีปัญหาขับสบาย แต่เอาจริงๆ จากที่ผมใช้งานคันนี้ประจำ จะว่าไปรถ 700 กว่าแรงม้าบางครั้งก็มีไฟเตือนขึ้นมาบ้าง ซึ่งก็เป็นปัญหานิดๆ หน่อยๆ ถ้าเรารู้จักรถก็ไม่มีอะไรให้เป็นห่วง แต่บางคนไม่เคยเจอก็จะตกใจนึกว่ารถมีปัญหาหนัก (หัวเราะ)

เสน่ห์ของ Aventador ต้องบอกว่าเป็นเครื่องยนต์ 12 สูบ ส่วนมากที่ผมขับจะเป็นเครื่องยนต์ 10 สูบ หลักๆ ก็เป็น Gallardo ส่วน Murci?lago ก็เป็นเครื่องยนต์ 12 สูบที่ผมขับแล้วฟีลลิ่งก็คล้ายกันกับ Aventador นะ สุ้มเสียงพอกัน แต่ Aventador ขับสบายกว่าเยอะ ความนิ่มนวลดีขึ้นเยอะผ่านช่วงล่างระบบไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นตามยุคสมัย อีกอย่างรูปทรงดีไซน์ และพละกำลังที่มาเต็มที่ การเกาะถนนในย่านความเร็วสูงแม้จะในความเร็ว 200 km/h ก็ยังมีอาการที่นิ่งและเงียบ ไม่มีปัญหาอะไร อัตราเร่งขึ้นมาเร็วมาก ซึ่งนี่คือความยอดเยี่ยมของ Aventador

เนื่องจากผมเป็นคนที่ชอบขับรถเป็นประจำพอได้ไปได้สัก 3 ปี ผมก็ตัดสินใจเปลี่ยนมาเป็น Huracan เราก็อยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร เพราะมันก็รูปร่างกะทัดรัดกว่า และมีดีไซน์ที่ดูเฟรนด์ลี่ดี จะแตกต่างจาก Gallardo ขนาดไหน ซึ่งหลังจากที่ได้รถมา ได้ขับก็ต้องบอกเลยว่า อืม ขับดีนะ ความสบายในการขับนี่ผมให้เต็ม 10 สบายให้ฟีลลิ่งในแบบรถเก๋งเลยละ การเปลี่ยนเกียร์นั้น สมู้ดมากไม่กระชากกระชัน เวลาขับอยู่รู้สึกได้เลยว่ามันเบา อัตราเร่งของเครื่องยนต์น้องๆ ของ Aventodor เลยละ แต่ขับง่ายกว่าเยอะ เพราะขนาดตัวรถที่เล็กกว่าภายในก็นั่งสบาย เป็นรถ 10 สูบที่ขับง่ายสบาย สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มองหารถซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์ 10 สูบ ผมแนะนำรุ่นนี้นะ

Lamborghini Club Thailand ณ ตอนนี้นี้ก็ก่อตั้งมานาน 7-8 ปีแล้ว เริ่มแรกรถก็มีอยู่แค่ไม่กี่คันเอง
7-8 คันเองครับ ซึ่งนับปัจจุบันก็มีเกินลิมิตที่ 45 คันแล้วครับ (หัวเราะ) หัวใจหลักที่ผมและเพื่อนๆ รุ่นแรกตั้งเอาไว้กับชมรมของเราคือ อยากให้ทุกคนที่เข้ามาได้รู้จักกันเป็นเพื่อนกัน ถ้าเข้ามาแล้วไม่รู้จักกันก็ไม่สนุก ต่างคนต่างนั่ง ต่างคนต่างกิน แล้วก็ขับรถไปด้วยกัน ก็ไม่รู้ว่าจะสนุกตรงไหน ซึ่งผมจะคุยกับสมาชิกทุกคนให้ต้อนรับเพื่อนกลุ่มใหม่อย่างไร ซึ่งเราก็จะเข้าไปพูดคุย ให้ความเป็นกันเอง ไม่มีฟอร์มคุยได้หมด ซึ่งหลายๆ ท่านที่เข้ามาออกทริปกับเรา เขาก็ชื่นชอบและบอกว่าอบอุ่นดี เส้นทางที่เราขับในหลายๆ ทริป ก็มี 2 ครั้งที่เป็น Overnight ทริป ซึ่งจะต้องขับจากกรุงเทพฯ ไปไกลหน่อย ซึ่งปัจจัยแรกที่เราเลือกเส้นทาง ถนนต้องดี ไม่อันตราย ซึ่งเราเน้นมากเรื่องกฎจราจร การเดินทางไปทริปแต่ละครั้ง เราก็ต้องแบ่งออกเป็น 2-3 กลุ่ม เพราะจำนวนรถที่มาก
กว่า 40 คัน เราก็จะมีผู้นำในการเดินทางทุกครั้งและห้ามแซงผู้นำเพื่อความปลอดภัย และที่สำคัญในทุกๆ ทริปของเรา ที่พักต้องดี อาหารต้องอร่อย ในงานก็ต้องมีบรรยากาศที่สนุก เราจะมี Full Brand มาให้เลย มีนักร้องชื่อดังมาเอนเตอร์เทนท์พวกเรา โดยส่วนมากทริปที่เราจัดไปจะเป็น Family Club เพื่อนๆ สมาชิกก็จะพาภรรยาพาลูกเดินทางไปด้วยกัน เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวด้วย หลายๆ ท่านก็ติดใจยังเก็บรถเอาไว้เพื่อไปเที่ยวด้วยกันกับกลุ่มเรา

ส่วนรถในฝันที่ผมอยากเก็บไว้ในความทรงจำ คงจะเป็น Gallardo Superleggera จริงๆ แล้วต้องขอเล่าไปตั้งแต่ที่ผมเริ่มเล่นรถค่ายกระทิงเปลี่ยว จำได้เลยว่า 10 กว่าปีที่แล้ว Gallardo 500 แรงม้า ซึ่งเป็นโมเดลแรกของ Gallardo ยังไม่มีอะไรเลยรุ่นนี้ ไม่มีทั้ง lift up ไม่มีทั้งจอ ระบบอื่นๆ ในรถก็ยังดิบอยู่มาก ช่วงล่างก็แข็งกระด้าง ตอนนั้นนึกย้อนไป เฮ้ย เราขับไปได้ยังไง แต่ก็มีความสนุกกับมัน ประทับใจสมรรถนะของเขา ก็มีความผูกพัน จากนั้นก็เปลี่ยนไปตามรุ่นที่มีออกมา ทั้ง Spyder และ Superleggera ซึ่งผมชอบมาก ไล่ไปจนถึง Gallardo LP 570-4 Super Trofeo ตัวนี้ต้องบอกเลยว่าขับมันส์มาก แต่ผมไม่ชอบ เพราะว่ามันขับแล้วเหนื่อย ตัวรถมีอาการดื้อดึงมาก อีกอย่างก็เข็มขัดนิรภัย 5 จุดแบบเรซซิ่งคาร์ต้องบอกตรงๆ ว่าผมใช้งานไม่ค่อยถนัดเลย ซึ่งโดยรวมผมขับ Gallardo 7 คัน จากนั้นก็เปลี่ยนไปเล่นรุ่นอื่นๆ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมหลงใหลในรุ่น Gallardo เพราะว่าผมได้สัมผัสมันมาตลอด

สำหรับผม Lamborghini ก็เหมือนรถแรงๆ ในภาพยนตร์รถซิ่ง เหยียบคันเร่งไปแรงๆ ตัวรถก็พร้อมจะตอบสนองไปตามใจ อัตราเร่งมาเร็วตามเท้าไม่ต้องรอรอบ มันทะยานไปได้เร็วมาก จะขับให้ได้อารมณ์ดิบก็ทำได้ หรือจะขับให้นุ่มนวลพลิ้วก็ทำได้เช่นเดียวกัน เชื่อไหมว่าตอนที่ผมขับไปออกทริปที่พัทยา ผมเหยียบประคองรอบเครื่องไปเบาๆ ไม่ได้เร่งอะไร ไป-กลับน้ำมันในถังยังเหลือสบายเลย แต่ถ้าเอามันส์อัดไปปุบน้ำมันนี่หายไปเลย (หัวเราะ) นอกจากนี้ดีไซน์ของเขามีเอกลักษณ์ไม่มีเชย ยังคงดุดันชัดเจนและสวยงามไม่มีเก่า เอารุ่น 10 กว่าปีที่แล้วมาขับก็ยังสวยไม่แพ้รถใหม่เลยละ