เข้าสู่ยุคเปลี่ยนถ่ายจากรถยนต์ขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปไปสู่รถไฟฟ้า100%!!

Last updated: 20 ต.ค. 2565  |  1227 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เข้าสู่ยุคเปลี่ยนถ่ายจากรถยนต์ขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปไปสู่รถไฟฟ้า100%!!

ยุคสมัยคือตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดทิศทางความเป็นไปของทุกอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่วันนี้เรากำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนถ่ายจากรถยนต์ขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปไปสู่รถไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่แทน

รถไฟฟ้าแบรนด์ BMW ที่เราเคยได้สัมผัสอาทิ BMW i3, iX3, i4 และ iX รวมไปถึงรถไฟฟ้าหรูหราระดับเรือธง BMW i7 ที่เพิ่งเข้าทำตลาดในไทยมาหมาดๆ เป็นผลลัพธ์จากความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ของ BMW ที่มองไกลเพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ เพื่อพัฒนายานยนต์พลังงานสะอาดไร้มลพิษมายาวนานกว่า 50ปี

 


1969 BMW Group เริ่มทดลองสร้างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขึ้นมาสองคัน โดยพัฒนาขึ้นมาจาก BMW 1602 ซึ่งอยู่ในคลาสเดียวกับ 2002 ซึ่งในตอนนั้นเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด BMW 1602 Electric ถูกถอดเครื่องยนต์และถังน้ำมันออก และแทนที่ด้วยแบตเตอรี่ตะกั่วกรดจาก VARTA ขนาด 12 โวลต์ 12 ก้อนวางในห้องเครื่อง กระปุกเกียร์ธรรมดาถูกแทนที่ด้วยมอเตอร์บ๊อชที่มีกำลังสูงสุด 32 กิโลวัตต์และกำลังส่งไปยังล้อหลัง 

สามปีหลังจากที่ BMW Group เริ่มการวิจัยรถยนต์ไฟฟ้า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1972 ได้จัดขึ้นที่มิวนิก มันเป็นเวลาเดียวกับอาคารลูกสูบ สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ BMW Group สร้างเสร็จพอดี BMW ใช้เวทีนี้ เปิดตัว BMW 1602 Electric สีส้ม Ruby Red รถสองคันทำหน้าที่เป็นพาหนะสำหรับคณะกรรมการจัดงาน และยังใช้เป็นรถสนับสนุนและติดกล้องถ่ายภาพการแข่งขันนอกสถานที่ เนื่องจากมันไม่มีไอเสียที่ปล่อยสู่เหล่านักกีฬา

 

 

60 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง คือระยะทำการที่ BMW 1602 Electric ทำได้ มันเร่งความเร็วจาก 0-50 กม./ชม. ในแปดวินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 100 กม./ชม.  แต่ระยะทางเท่านี้และแบตเตอรี่น้ำหนัก 350 กิโลกรัม ทำให้ BMW 1602 Electric ยังไม่ใช่รถยนต์สำหรับการใช้งานจริง มันจึงยังไม่ได้ผลิตออกมาจำหน่าย  แต่เทคโนโลยีนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ของบีเอ็มดับเบิลยู

 

1975-1992 BMW Group ได้ทำการวิจัยและทดสอบรถยนต์รุ่นต่างๆ บนแพลตฟอร์ม BMW LS ที่ใช้แบตเตอรี่โซเดียมซัลไฟด์จนพัฒนามาเป็น BMW E1  ซิตี้คาร์ที่เปิดตัวงานแฟรงค์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์ (IAA) ในปี 1991

 

 

2009 BMW ได้เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฮบริดพร้อมกันสองรุ่นที่งานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ คือ BMW ActiveHybrid 7 และ BMW ActiveHybrid X6 SAC เนื่องจากแบตเตอรี่ในยุคนั้นยังมีพละกำลังไม่มาเท่าในปัจจุบัน  ด้วยเหตุนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป จึงนำเสนอรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกที่งาน IAA ในปี 2009

 

 

2010 ผ่านมาเพียงหนึ่งปี  BMW ก็นำเสนอ BMW Concept ActiveE ตามมาติดๆ ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ได้พัฒนาต่อมาเป็น Megacity Vehicle (MCV) ซึ่งนำไปสู่การเปิดตัว BMW i3

 

 

"Born electric" สโลแกนของรถยนต์เซกเมนต์ใหม่ของ BMW ในชื่อ BMW i  ได้เปิดตัวรถรุ่นแรกคือ BMW i3  ที่มีห้องโดยสารทำจากพลาสติกเสริมคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) เป็นผลให้น้ำหนักเบาช่วยให้รถแล่นได้ไกลขึ้นด้วยแบตเตอรี่ขนาดเล็กลง  

 

 

BMW i8 รถสปอร์ตปลั๊กอินไฮบริต ที่มาจากคอนเซ็ปต์ BMW Vision EfficientDynamics ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กปล่อยมลพิษต่ำรวมกับพลังงานไฟฟ้าจนได้สมรรถนะสูง ได้เปิดตัวในปี 2014 และตามมาด้วยรุ่นเปิดประทุน roadster BMW i8 ในปี 2018 

 

 

2019  BMW แสดงให้โลกเห็นว่าบริษัทได้ก้าวไปอีกขั้นในการใช้เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ในรถ BMW i Hydrogen NEXT และอีกสองปีต่อมา BMW iX5 Hydrogen ที่ขับขี่ได้จริงก็เปิดตัวครั้งแรกในงาน  IAA 2021  

 

 

2022 ภาพของยานยนต์อนาคตนั้นมาถึงเร็วกว่าที่คาด และถึงตอนนี้ผู้คนก็ได้สัมผัสประสปการณ์เหล่านั้นใน BMW iX, BMW i4, BMW i7, BMW iX1, BMW iX3 และอีกหลายๆรุ่นที่ทยอยกันออกมาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับการเดินทางของพวกเรา

 

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้