THE ELEGANCE

Last updated: 4 พ.ย. 2562  |  1433 จำนวนผู้เข้าชม  | 

THE ELEGANCE

คันที่เราได้มานั้น เป็นตัว Facelift ซึ่ง revise ใหม่ทั้งไฟหน้าที่เป็น Full-LED ดีไซน์สวยงามกว่าเดิมเช่นเดียวกับไฟ ท้าย ส่วนกระจังหน้าเป็นโครเมี่ยมคู่ที่เน้นไปที่ความสปอร์ทและดุดัน

กันชนดีไซน์ใหม่ มีช่องช่องดักอากาศแบ่งเป็น 3 พาร์ท กลาง ซ้าย- ขวาพร้อมช่องดักลมใหญ่เพิ่มความสปอร์ตและดุดัน  ส่วนล้อแม็กที่ให้มานั้นคือล้อแม็ก AMG ลาย 10-spoke ขนาด 20"  

ภายในถือว่าหรูหราตามสไตล์Mercedes-Benz ถือว่าไม่ผิดหวังเลยเพราะวัสดุภายในนั้นเป็นหนัง Nappa ตลอดห้อง โดยสาร   ส่วนเบาะนั่งนั้นเป็นหนัง Nappa exclusive ที่ทั้งกระชับและนุ่มสบาย พร้อมกับระบบซับเสียงจากภายนอกจึงทำให้การเดินทางนั้นไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามารบกวน   พวงมาลัยดีลาย 3 ก้าน ดีไซน์ใหม่มีปีกซ้ายและขวา ทำจาก อลูมิเนียม   หน้าจอ Instrument cluster สามารถเลือกได้ 3 แบบคือ sport, classic และ progessive พร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ส่วนคอนโซลเป็นลายไม้ wallnut 

 
S 350D ที่เราได้มาคันนี้ ใช้เครื่องยนต์อันทรงพลัง 6 สูบแถวเรียงมีการใช้เทอร์โบคู่เพื่อสร้างแรงอัดพิเศษพร้อมอินเตอร์ คูลเลอร์ซึ่งให้พละกำลังสูงถึง 286 แรงม้ามาให้ใช้ที่รอบต่ำตั้ง 3,400-4,600 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดนั้นถือว่าเป็นทีเด็ดที่ มากถึง 600 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 1,200 รอบ/นาทีลากยาวได้ถึง 3,200 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 ภายใน 6.0 วินาที ท็อปสปีด 250 กม/ชม จับคู่กับระบบเกียร์ 9G tronic ที่มีอัตราทดสมูธลื่นไหลไร้รอยต่อ ส่วนการทดเกียร์เพื่อเร่งแซงถือว่าแรงใช้ได้

การขับขี่นั้นถือว่านุ่มสบายมากโดยเฉพาะพวงมาลัยที่ยังเซ็ตมาให้สไตล์ตามแบบฉบับ Mercedes ไม่ตึงมือจนเกินไปมี feedback กลับมาถึงคนขับให้รับรู้ถึงการขับขี่ได้ดีด้วย
 
ขณะที่ช่วงล่างนั้นมีการ revise ระบบ Air suspension ใหม่ที่ให้ทั้งความนุ่มนวลและเกาะถนนดีเยี่ยมการอัพเกรดตรงนี้ ถือว่าดีมากซึ่งรถนั้นสามารถยกตัวให้สูงขึ้นจากเดิม 30 มม. หากเซนเซอร์นั้นจับสภาพพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบ เป็นหลุม เป็นบ่อเพื่อให้การขับขี่ที่นุ่มนวล

การขับในโหมดสปอร์ตนั้นตัวรถจะกดต่ำลงมาอีก 20 มม. เพื่อการยืดเกาะถนนให้มั่นคงและมีสเถียรภาพมีการตอบสนองที่รวดเร็วมากถือว่าเป็นรถที่มีหลายบุคคลิกทั้งๆที่เป็นรถ Luxury limusine ขนาดใหญ่ แถมภายในยังนั่งสบายโดย เฉพาะด้านหลังที่มี Leg room กว้างขวาง

ส่วนเรื่องจองอัตราสิ้นเปลืองนั้นนับว่าเป็นรถที่ประหยัดมากๆ เพราะจากการทดสอบนัน้นอัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ 27 กม/ลิตร

บทสรุปของ Mercedes-Benz S-Class S 350D AMG Premium คันนี้เมื่อเทีนยบกับทั้งฟีเจอร์ต่างๆบวกกับความหรูหรา และอุปกรณ์ภายในแล้วถือว่าคุ้มมากๆในราคาค่าตัว 7.64 ล้านบาท

สำหรับใครที่อยากชมรีวิวแบบจัดเต็มบน FOC Channel ที่ Youtube คลิ๊กที่ภาพด้านล่างเลย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้