บทสรุปแห่งศตวรรษ! Rolls-Royce Phantom Centenary Private Collection ฉลอง 100 ปีด้วยพลัง V12 สุดคลาสสิก ก่อนเข้าสู่ยุคไฟฟ้าเต็มตัว

ลองจินตนาการดูนะ เพื่อน—รถคันหนึ่งที่ไม่ได้ออกแบบมาแค่ให้ขับ แต่เพื่อเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ทั้งศตวรรษของ Phantom ด้วยงานศิลป์ละเอียดจนใจสั่น โรลส์-รอยซ์เปิดตัว Phantom Centenary Private Collection รุ่นจำกัดเพียง 25 คัน ซึ่งทางแบรนด์บอกว่าเป็นคอลเล็กชันที่ซับซ้อนและทะเยอทะยานด้านเทคโนโลยีที่สุดเท่าที่เคยทำมา และมันก็ไม่ใช่คำพูดเกินจริงเลย

ภายนอกรถมาในโทนสองสี Arctic White ตัดกับดำ เฉดสีที่โรยด้วยอนุภาคแก้วบดจนเกิดประกายเมทัลลิกที่วิบวับเหมือนชุดบอลของฮอลลีวูดยุคทอง แต่จุดที่ทำให้คนต้องเหลียวมองคือ Spirit of Ecstasy ที่ไม่ได้เป็นแค่สัญลักษณ์ธรรมดาอีกต่อไป ฐานของหญิงปีกนี้เป็นงานเคลือบยาน้ำมันขาวที่เทด้วยมือ มีป้าย “Phantom Centenary” ประดับอยู่ และตัวฟิกเกอร์ถูกจัดการเป็นงานทองชั้นเลิศ—ฐานเป็นทอง 18 กะรัต และเคลือบชั้นบนด้วยทอง 24 กะรัตเพื่อให้เงาไร้คราบและคงความหรูอย่างยาวนาน นี่ยังไม่นับตรา Rolls-Royce อีกสี่อันที่ทำจากทอง 24 กะรัตและเคลือบอีนาเมลขาว ให้ความรู้สึกแพงลึกเข้าไปถึงเนื้อเยื่อของรถ ส่วนล้อก็มีรายละเอียดพิเศษด้วยเส้นสลัก 25 เส้น เป็นการย้ำว่าโลกมีคันเดียวในแต่ละลาย

พอเปิดประตูเข้าไป ข้างในคือเรื่องเล่าแบบสามมิติที่เราไม่เคยเห็นในรถมาก่อน เบาะหลังกลายเป็นผืนผ้าใบที่เล่าเรื่อง Phantom ข้ามยุคสมัยเป็นสามชั้นซ้อน ชั้นล่างเป็นภาพพื้นหลังความละเอียดสูงที่พาเราไปยังสถานที่และวัตถุจากประวัติศาสตร์ของ Phantom ตั้งแต่สำนักงาน Conduit Street แห่งแรกในลอนดอนจนถึงภาพวาดของ Henry Royce ชั้นที่สองพิมพ์ภาพ Phantom รุ่นสำคัญอย่างประณีต และชั้นบนสุดคือชุดงานปักที่เป็นนามธรรมแทนเจ้าของสำคัญเจ็ดคนในแต่ละยุค งานปักชุดนี้ใช้เวลากว่าหนึ่งปีจัดทำและมีมากกว่า 160,000 เข็ม เย็บละเอียดจนเหมือนภาพศิลป์ ส่วนหลังคา Starlight Headliner ก็ไม่ธรรมดา เพราะมีฉากเคลื่อนไหวปักไว้ 440,000 เข็ม จับช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ของ Phantom ให้เราเงยหน้าแล้วหลุดไปอีกโลก

แผงไม้ภายในเป็นงานฝีมือที่ถูกยกให้ซับซ้อนที่สุดที่แบรนด์เคยทำ มี Blackwood ที่ผ่านกระบวนการย้อม ลายแต่ละแผงไม่ซ้ำกัน ผสานเทคนิคล้ำอย่างการเลเซอร์เอ็ตชิ่ง ชั้นหมึก 3 มิติ มาร์เคตทรีหลายทิศทาง และการปิดทองให้เกิดมิติเหมือนภาพพิมพ์ นอกจากนี้ยังมี ‘ถนน’ เล็กๆ ที่กะด้วยใบทอง 24 กะรัตเป็นเส้นนำสายตาให้แผงไม้มีชีวิต ตัว Anthology Gallery ก็เจ๋ง—ครีบอะลูมิเนียมพิมพ์ 3 มิติที่มีตัวอักษรอ่านได้จากทั้งสองด้าน เป็นงานออกแบบที่ทั้งเท่และชวนให้สำรวจของจริง

รายละเอียดเล็กๆ เต็มรถ พาโน่แบล็กเวเนียร์ผสมผงทอง ล้อคำแกะสลัก 25 เส้น ฝาพายของเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.75 ลิตรที่ถูกออกแบบให้เข้ากับสี Arctic White และตกแต่งด้วยลายทอง 24 กะรัต โต๊ะปิกนิกหลังที่สลักภาพ Phantom ปี 1925 และ Phantom VIII เบาะหน้าเองก็มีศิลปะเลเซอร์เอ็ตช์เป็นภาพสเก็ตช์อ้างอิงโค้ดเนมรุ่นเก่าอย่าง “Seagull” และรายละเอียดลับอย่างกระต่ายที่เป็นนัยถึงโค้ดเนม “Roger Rabbit” ในการฟื้นฟูแบรนด์เมื่อปี 2003 — ทุกอย่างมีเหตุผลและเต็มไปด้วยการอ้างอิงเชิงประวัติศาสตร์

ที่สำคัญผลงานชิ้นนี้ไม่ใช่ของโชว์บนหน้าจอเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลลัพธ์ของการลงมือจริงกว่า 40,000 ชั่วโมง และอยู่ในขั้นตอนพัฒนามากกว่า 3 ปี นั่นทำให้ Phantom Centenary Private Collection กลายเป็นมากกว่ารถหรู มันคือพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ที่ขับได้ และเป็นบทสรุปของทักษะฝีมือความประณีตของ Rolls-Royce ที่กล้าพูดได้เต็มปากว่าไม่มีค่ายไหนทำเหมือน

ถ้าคุณสงสัยว่าใครจะเป็นเจ้าของคันพวกนี้ คำตอบคือวัตถุสะสมสำหรับผู้ชื่นชอบสุดยอดงานหัตถศิลป์ยานยนต์—คนที่จะเข้าใจว่าการใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่เส้นไหมบนเบาะจนถึงการเคลือบทองที่ Spirit of Ecstasy คือการรักษา “ตำนาน” ไว้บนท้องถนน