Last updated: 29 พ.ค. 2568 | 1189 จำนวนผู้เข้าชม |
หลายคนอาจจะคิดว่าการปรับปรุงรถยนต์รุ่นใหม่ประจำปี (Model Year Update) มักจะเป็นแค่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ แต่สำหรับ Land Rover Defender ปี 2026 แล้ว พวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามันไม่ใช่แค่นั้น! SUV สุดแกร่งคันนี้ได้รับการอัปเกรดครั้งสำคัญ ทั้งในส่วนของหน้าจอ Infotainment ที่ใหญ่ขึ้น, การปรับแต่งรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเฉียบคมขึ้น, เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา, และชุดอุปกรณ์เสริมที่ขยายขอบเขตให้เลือกสรรมากยิ่งขึ้น ที่น่าสนใจคือเมื่อปีที่แล้ว Defender เพิ่งจะได้รับการปรับปรุงไลน์อัพให้มีความพรีเมียมมากขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ถือเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวรถในหลายๆ ด้าน แม้ว่าจะยังไม่ถึงขั้นเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ (Facelift) ก็ตาม


รูปลักษณ์ภายนอกที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อความเฉียบคมยิ่งขึ้น:
เริ่มต้นกันที่ภายนอก Defender ทั้งสามรุ่นตัวถัง (90, 110, และ 130) ได้รับการปรับปรุงรายละเอียดที่น่าสนใจหลายจุด
ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่: ทุกรุ่นมาพร้อมกับกราฟิกภายในโคมไฟหน้า LED ที่ได้รับการออกแบบใหม่เล็กน้อย ทำให้ดูทันสมัยและโดดเด่นยิ่งขึ้น
ไฟท้าย Flush สีรมดำ: ไฟท้ายได้รับการปรับดีไซน์ให้มีความเรียบเนียนไปกับตัวถังมากขึ้น (Flush Design) พร้อมกับโทนสีรมดำ (Dark-Tinted Finish) เพิ่มความสปอร์ตและดุดัน
ไฟตัดหมอกมาตรฐาน: ไฟตัดหมอกกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่: กันชนทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้รับการปรับพื้นผิว (Surfacing) ใหม่ ให้ดูแข็งแกร่งและบึกบึนยิ่งขึ้น
แถบกระจังหน้าสีดำเงามาตรฐาน: แถบกลางของกระจังหน้า (Grille-Bar) เปลี่ยนเป็นสีดำเงา (Gloss Black) เป็นมาตรฐาน
ช่องระบายอากาศข้างแก้มรถและฝากระโปรงลายใหม่: ช่องระบายอากาศด้านข้าง (Side Vents) และบริเวณฝากระโปรง (Hood Inserts) เปลี่ยนจากลายตารางหมากรุกพลาสติกแบบเดิม เป็นลาย Texture ใหม่ที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมและทันสมัยมากขึ้น
สีตัวถังใหม่: มีสีใหม่เพิ่มเข้ามาให้เลือกสองสี ได้แก่ Woolstone Green และ Borasco Grey เพิ่มความหลากหลายให้กับผู้ที่ต้องการความแตกต่าง



ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่: มีล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว ลาย 7 ก้าน สี Dark Grey เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลุคที่เข้มขึ้น
สีพิเศษสำหรับ Defender OCTA: สำหรับรุ่น OCTA ซึ่งเป็นรุ่นสมรรถนะสูงสุดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ จะมีสีพิเศษ Sargasso Blue ที่โดดเด่น พร้อมรายละเอียดการตกแต่งภายนอกด้วย Textured Graphite และ Carbon Fibre แบบ Chopped ทั้งด้านในและด้านนอก
ฟิล์มด้านสำหรับ Defender V8: ตั้งแต่ปลายปี 2025 เป็นต้นไป Defender ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 ทุกรุ่น จะมีตัวเลือกฟิล์มด้าน Patagonia White Matte Wrap ให้เลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบลุคที่แตกต่างและดุดัน
โดยรวมแล้ว การเปลี่ยนแปลงภายนอกอาจจะต้องสังเกตกันดีๆ ถึงจะเห็นความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ก็ช่วยเสริมให้ Defender ดูดีและมีความประณีตมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่านี่ไม่ใช่การปรับโฉมครั้งใหญ่


ภายในห้องโดยสาร การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดคือ
หน้าจอสัมผัส Infotainment ขนาดใหญ่ขึ้น: จากเดิม 11.4 นิ้ว อัปเกรดเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 13.1 นิ้ว ทำให้การใช้งานระบบต่างๆ ภายในรถสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น
การจัดวางตำแหน่งเกียร์ใหม่: ตำแหน่งของคันเกียร์ได้รับการปรับปรุงเล็กน้อยเพื่อให้เข้าถึงและใช้งานได้สะดวกสบายตามหลักสรีรศาสตร์มากขึ้น
คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่: คอนโซลกลางมีส่วนที่เลื่อนเปิด-ปิดได้แบบใหม่ และมีพื้นที่เก็บของที่ลึกขึ้น นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของด้านข้างที่สามารถถอดออกได้สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเบาะนั่งตรงกลางด้านหน้า (Jump Seat) ซึ่งเป็นการปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ แต่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานจริง
เทคโนโลยีใหม่: Adaptive Off-Road Cruise Control: ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติขณะขับขี่ Off-Road ที่ได้รับการอัปเกรดจาก All Terrain Progress Control ช่วยให้การขับขี่บนเส้นทางสมบุกสมบันง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Driver Attention Monitor: ระบบตรวจสอบความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ พร้อมแจ้งเตือนด้วยเสียงและภาพ หากระบบตรวจพบสัญญาณของการขาดสมาธิ (แต่ผู้ขับขี่สามารถปิดการแจ้งเตือนนี้ได้หากต้องการ)
อุปกรณ์เสริมที่หลากหลายยิ่งขึ้น
Land Rover ได้ขยายขอบเขตของอุปกรณ์เสริมที่มีให้เลือกสำหรับ Defender ปี 2026 อย่างน่าสนใจ
อุปกรณ์เสริมสีดำ: นอกเหนือจากชุดแต่ง Explorer, Adventure, และ Urban Packs แล้ว อุปกรณ์เสริมแบบแยกชิ้น เช่น แร็คหลังคา, คานขวาง, แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ ก็มีสีดำให้เลือกเพิ่มเติม
บันไดข้างดีไซน์ใหม่: มีตัวเลือกบันไดข้างทั้งแบบพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า (Deployable Side Steps) และแบบยึดตาย (Fixed Side Steps) ดีไซน์ใหม่
สติกเกอร์ฝากระโปรงสีดำด้านลายใหม่: เพิ่มความสปอร์ตและดุดันให้กับภายนอกด้วยสติกเกอร์ฝากระโปรงสีดำด้านลายใหม่
วินช์พร้อมฝาครอบคาร์บอนไฟเบอร์สำหรับ OCTA: สำหรับรุ่น OCTA จะมีตัวเลือกวินช์พร้อมฝาครอบคาร์บอนไฟเบอร์แบบ Chopped ที่ดูสวยงามและแข็งแรง
ปั๊มลมในตัวสำหรับ Defender 130: สำหรับรุ่น Defender 130 จะมีตัวเลือกปั๊มลมในตัว ช่วยให้การเติมลมยางในสถานการณ์ต่างๆ สะดวกสบายยิ่งขึ้น
การวางจำหน่ายและราคา
ปัจจุบัน Land Rover Defender ปี 2026 เปิดให้สั่งจองแล้วในสหราชอาณาจักร โดยมีราคาเริ่มต้นที่ £57,135 (ประมาณ 77,200 ดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับการวางจำหน่ายในตลาดอื่นๆ รวมถึงอเมริกาเหนือ คาดว่าจะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้
สรุป: Land Rover Defender ปี 2026 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การปรับปรุงเล็กน้อย แต่เป็นการยกระดับรถ SUV สุดแกร่งคันนี้ให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย และชาญฉลาดยิ่งขึ้น ด้วยการปรับปรุงทั้งรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเฉียบคมขึ้น, ภายในห้องโดยสารที่เน้นการใช้งานที่ง่ายและสะดวกสบาย, เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการขับขี่, และอุปกรณ์เสริมที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน ทำให้ Defender ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ออฟโรดที่มีสไตล์และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม