เปิดตัว BMW R nineT Urban G/S “40 Years GS Edition รุ่นพิเศษ

Last updated: 7 ต.ค. 2564  |  1456 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เปิดตัว BMW R nineT Urban G/S “40 Years GS Edition รุ่นพิเศษ

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ฉลอง 40 ปีแห่งการผจญภัยด้วย
รุ่นพิเศษ R nineT Urban G/S “40 Years GS Edition”

พร้อมให้สัมผัสและจับจองแล้ววันนี้ ณ ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ จำนวนจำกัดเพียง 9 คันเท่านั้น




กรุงเทพฯ. หลังจากเปิดตัวตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู R nineT ใหม่ไปได้ไม่นาน บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เอาใจแฟน ๆ บิ๊กไบค์ในไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในตระกูล GS กับตำนานแห่งการทัวร์ริ่งในแบบเอ็นดูโร ด้วยการเผยโฉมบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S รุ่น “40 Years GS Edition” มอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษในดีไซน์เฉพาะที่ผสานสีดำและสีเหลืองได้อย่างโดดเด่น ซึ่งนำมาสู่ตลาดไทยเพียง 9 คันเท่านั้น พร้อมให้จับจองได้แล้วที่ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ




มร. มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ตระกูล GS เป็นรุ่นที่สร้างชื่อเสียง
ไปทั่วโลก จากแอฟริกาสู่เอเชียกลาง ในฐานะผู้บุกเบิกรถมอเตอร์ไซค์แบบดูอัลสปอร์ต ทั้งยังเปี่ยมด้วย
ความแข็งแกร่ง รูปลักษณ์อันทรงพลังและโดดเด่น เหมาะกับการขับขี่ในทุกเส้นทางไม่ว่าจะเป็นออฟโรดและบนท้องถนน ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล GS เป็นที่รู้จักในฐานะมอเตอร์ไซค์ที่ให้ประสบการณ์แห่งความท้าทายและค้นหาการผจญภัยครั้งใหม่ ๆ ถือเป็นมอเตอร์ไซค์สำหรับนักแสวงหาตัวจริง และยังครองใจนักบิดชาวไทยสายแอดเวนเจอร์อีกด้วย เพื่อเฉลิมฉลองการผจญภัยตลอดสี่ทศวรรษซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราได้ชื่นชมกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล GS ที่นำไปสู่การเดินทางอันน่าจดจำ และสร้างแรงบันดาลใจในการผจญภัยอย่างต่อเนื่อง จนขับเคลื่อนสู่การขับขี่ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม   บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย จึงนำตำนานแห่ง GS กลับมาอีกครั้งด้วยรุ่นพิเศษ บีเอ็มดับเบิลยู
R nineT Urban G/S รุ่น “40 Years GS Edition” กับโฉม “Bumblebee” ของบีเอ็มดับเบิลรุ่น R 100 GS


พร้อมยกระดับขุมพลังและเสริมการขับขี่ที่สนุกสนานยิ่งขึ้น ”

บีเอ็มดับเบิลยู R nineT G/S รุ่น “40 Years GS Edition” ยังคงการออกแบบอันเป็นตำนานไว้ด้วยชุดแต่ง Option 719 ทั้งฝาครอบกระบอกสูบ เบาะหนังสีดำและเหลือง แฮนด์การ์ดสีเหลือง และท่อร่วมชุบโครเมียม สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียด พร้อมด้วยสมรรถนะของการเป็นมอเตอร์ไซค์ออฟโรดที่สมบูรณ์ทั้งรูปลักษณ์และการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นล้อซี่ลวดลาย Cross Spoke II ยางออฟโรด และท่อไอเสียยกสูงในแบบScrambler เติมเต็มรูปลักษณ์และสื่อถึงความเป็นมาของ GS ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา

บีเอ็มดับเบิลยู R nineT G/S “40 Years GS Edition” สืบทอดเอกลักษณ์ในตระกูล GS ด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมัน ที่ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติที่สอดคล้องตามมาตรฐานมลพิษ EU-5 ส่งพละกำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109 แรงม้า) ที่ 7,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 116 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที หัวฉีดแบบใหม่ทำงานเข้าจังหวะกับระบบระบายความร้อนยิ่งขึ้น วาล์วปีกผีเสื้อและฝาครอบหัวฉีดได้รับการออกแบบใหม่ ปรับโฉมให้โดดเด่นกว่าเดิม


บีเอ็มดับเบิลยู R nineT G/S “40 Years GS Edition” ยกระดับความสมดุลแห่งการขับขี่ด้วยโหมด Pro ซึ่งติดตั้งมาเป็นมาตรฐานใน R nineT Urban G/S ทุกรุ่น นอกจากนี้ โหมด Dirt ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Dynamic Traction Control) และระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มอบประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ตในทุกสภาวะพื้นถนน เช่นเดียวกับใน
R nineT รุ่นใหม่ ๆ นอกจากเครื่องยนต์จะถูกปรับแต่งมาให้ตอบสนองได้ฉับไวเต็มพิกัดแล้ว ระบบ DTC จะทำงานร่วมกับเบรก ABS Pro เพื่อให้สามารถเร่งความเร็วบนท้องถนนได้อย่างมั่นใจ ด้วยแรงเสียดทานที่เพิ่มการยึดเกาะถนน




ส่วนจังหวะที่เบรกพร้อมกับลดเกียร์ บีเอ็มดับเบิลยู
R nineT G/S “40 Years GS Edition” ก็ยังเสริมความปลอดภัยด้วยระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) ซึ่งทำงานด้วยการควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ ส่วนระบบกันสะเทือนใหม่ มาพร้อมกับสปริงที่มีอัตราการยุบตัวแตกต่างกันไปตามแรงกดที่ได้รับ (WAD) จึงทำให้ทรงตัวได้มั่นคงและเพิ่มความสบายในการขับขี่ไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ตัวรถยังรองรับการตั้งค่าสปริงด้วยตัวเองอย่างง่ายดายด้วยปุ่มหมุนที่เพิ่มเข้ามา

เพื่อลุคที่ทันสมัยยิ่งขึ้น R nineT Urban G/S
“40 Years GS” ยังเติมความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟเลี้ยวที่กลมกลืนไปกับตัวรถ จะมองเห็นเฉพาะเมื่อเปิดไฟเท่านั้น ขณะที่ชุดไฟหน้า LED มาพร้อมไฟส่องสว่างตอนกลางวันและไฟเลี้ยวสีขาวในตัว พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายขณะเดินทางด้วยช่องเสียบสายชาร์จ USB ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

บีเอ็มดับเบิลยู R nineT G/S “40 Years GS Edition” พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้วในราคา 899,000 บาท 
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bmw-motorrad.co.th หรือติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทั่วประเทศ  


บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป  
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้ แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก  

ในปี พ.ศ. 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.3 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 169,000 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2562 อยู่ที่ 7.118 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 104.210 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 126,016 คนทั่วโลก 

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย  


บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย  

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล  

ในปี 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 12,426 คัน โดยได้ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 11,242 ลดลง 4.3% จากปีก่อนหน้า ขณะที่มินิมียอดการส่งมอบ 1,184 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 1.7% ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดส่งมอบ 1,224 คัน แม้จะต้องประสบกับสถานการณ์โรคระบาดในปี 2563     

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู 
แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมา นอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 15 ประเทศทั่วโลก  

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 17 รุ่น ได้แก่ บีเอ็ม 
ดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็ม 
ดับเบิลยู X5 และบีเอ็มดับเบิลยู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR  
บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็ม 
ดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e  
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive  


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: 
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย 
1397 
www.bmw.co.th       
www.mini.co.th       
www.bmw-motorrad.co.th        

สื่อมวลชนติดต่อ  บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ 
สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102) 
ธรธวัช ทองแนบ (08-3225-4567 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 206) 
ปวริศา ธนวจีรัณ (08-6564-4726 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 125)    
นภสร ศรีวรรณวิทย์  (08-5862-7676 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 212)
sboonsaeng@carlbyoir.com, tthongnab@carlbyoir.com, pthanwajeran@carlbyoir.com, nsriwannavit@carlbyoir.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้