บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ครบทั้งสมรรถนะการขับขี่เหนือชั้น ควบคู่ความโอ่อ่าสะดวกสบาย เสริมมาตรการความปลอดภัยและปกป้องสุขภาพ พร้อมต้อนรับลูกค้ากลับสู่โชว์รูมทั่วประเทศ

Last updated: 23 ก.ย. 2564  |  1056 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่  ครบทั้งสมรรถนะการขับขี่เหนือชั้น ควบคู่ความโอ่อ่าสะดวกสบาย เสริมมาตรการความปลอดภัยและปกป้องสุขภาพ พร้อมต้อนรับลูกค้ากลับสู่โชว์รูมทั่วประเทศ

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่    ครบทั้งสมรรถนะการขับขี่เหนือชั้น ควบคู่ความโอ่อ่าสะดวกสบาย เสริมมาตรการความปลอดภัยและปกป้องสุขภาพ พร้อมต้อนรับลูกค้ากลับสู่โชว์รูมทั่วประเทศ




กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เสริมทัพรถยนต์สปอร์ตซีดานตระกูล ซีรีส์ 3 เผยโฉมบีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ รุ่นฐานล้อยาวเป็นอีกหนึ่งทางเลือก มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับอย่างรอบด้าน พร้อมต้อนรับลูกค้ากลับสู่โชว์รูมของผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้ายิ่งขึ้นด้วยมาตรการความปลอดภัยและปกป้องสุขภาพขั้นสูงสุด

มร. กัลดริค ดอนเนอซาน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและพัฒนาธุรกิจ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย กล่าวว่า
“บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ยังคงรักษาไว้ทั้งสมรรถนะอันทรงพลัง และสไตล์การออกแบบที่โดดเด่นในแบบของซีรีส์ 3 อย่างเต็มเปี่ยม แต่ยังแตกต่างด้วยพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นภายในห้องโดยสาร พร้อมมอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่าบนทุกเส้นทาง แม้จะยังคงปราดเปรียวโฉบเฉี่ยวไม่แพ้ซีรีส์ 3 รุ่นอื่น ๆ พร้อมด้วยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ยอดเยี่ยม และที่สุดแห่งความเพลิดเพลินในการขับขี่

รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ พร้อมให้สัมผัสแล้วที่โชว์รูมของผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ซึ่งลูกค้าอุ่นใจได้ว่าจะได้รับบริการระดับพรีเมียมควบคู่ไปกับมาตรการความปลอดภัยและปกป้องสุขภาพที่เข้มงวด นอกจากนี้ พนักงานของเราที่ปฏิบัติงานในโชว์รูมต่างก็ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วทุกคน”

 



บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่
ราคาจำหน่าย: 2,469,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ยังคงลุคสปอร์ตโฉบเฉี่ยวและสมรรถนะที่เฉียบคมไว้เช่นเคย แต่
เสริมความโอ่อ่าสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยมิติรถที่กว้างขวางเช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู 330Li M Sport ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ด้วยมิติความยาวรวม 4,819 มิลลิเมตร ความกว้างที่ 1,827 มิลลิเมตร และความสูงที่ 1,441 มิลลิเมตร ประตูหลังที่กว้างขึ้นกว่าบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 3 รุ่นเดิม 110 มิลลิเมตร ช่วยให้ผู้โดยสารเบาะหลังเข้า-ออกจากรถได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งยังสบายกว่าในขณะเดินทางด้วยพื้นที่ห้องโดยสารแถวหลังที่ยาวขึ้นอีก 43 มิลลิเมตร



ดีไซน์ภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ยังคงสื่อถึงความเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรม หรือ “Ultimate Driving Machine” ด้วยเอกลักษณ์ดีไซน์ที่ทันสมัย สมรรถนะปราดเปรียว ประสิทธิภาพการขับขี่เหนือระดับ รวมถึงเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ล้ำยุค ซึ่งรวมเป็นเอกลักษณ์แก่นแท้ของบีเอ็มดับเบิลยู และยังมาพร้อมองค์ประกอบเฉพาะตัวที่โดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มาพร้อมกับแผ่นบานเกล็ดแนวตั้งวัสดุโครเมี่ยม และแกนทแยงสีดำเงาที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ รับกับไฟหน้า LED ทรงเรียวยาวด้านข้างของตัวรถ ส่วนกรอบหน้าต่างดีไซน์แบบ Hofmeister Kink อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู ก็ได้รับการออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับเสา C-pillar มอบมิติไร้ขอบที่ดูหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมด้วยกรอบไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่เพรียวบางกว่าเดิม กับไฟ LED ทรงตัว L และท่อไอเสียแบบคู่ ล้วนเสริมให้ท้ายรถดูกว้างและสปอร์ต

บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ส่งกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้าที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรที่ 1,350 – 4,400 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ และรองรับระบบ Driving Experience Control ที่มีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกทั้งในโหมด COMFORT, SPORT และ ECO PRO



นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ยังมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้้ว ลาย Multi-spoke แบบสลับสี และยางรันแฟลต การตกแต่งภายนอกแบบ Luxury Line โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยกันชนหน้า กระจกข้าง ขอบหน้าต่าง และกันชนท้ายในสีโครเมี่ยมเงา หลังคากระจกแบบ Panorama มอบวิวท้องฟ้าเด่นชัดให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ส่วนระบบเครื่องเสียง HiFi ยังให้เสียงใสในทุกรายละเอียด เติมเต็มประสบการณ์การเดินทางในรถยนต์ซีดานหรูนี้ได้อย่างดีเยี่ยม การตกแต่งภายในสะท้อนความประณีตด้วยคอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec ผิวไม้ลาย Oak Grain Open-Pored ตัดกับโครเมี่ยมมุกอย่างลงตัว

เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยนำเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง พร้อมระบบการเชื่อมต่อเต็มรูปแบบผ่านระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 ซึ่งเสริมประสิทธิภาพให้แก่ระบบ BMW Intelligent Personal Assistant และ Live Cockpit Professional รถยนต์รุ่นฐานล้อยาวนี้ยังมอบทางเลือกมากมายในการเชื่อมต่อและควบคุมระบบในตัวรถ รวมถึงการใช้ BMW Gesture Control ระบบสั่งงานด้วยเสียง ปุ่ม iDrive และจอแสดงผล Control Display ขนาด 10.25 นิ้ว อีกด้วย

 



ลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ สามารถยกระดับแพ็คเกจ BMW Service Inclusive เสริมจาก BSI Standard เพื่อสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม โดยมีรายละเอียดดังนี้




เพื่อต้อนรับลูกค้ากลับสู่ประสบการณ์และการให้บริการของบีเอ็มดับเบิลยู ณ สถานที่จริง โชว์รูมของ
ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการทั่วประเทศพร้อมมอบบริการควบคู่มาตรการความปลอดภัยและปกป้องสุขภาพขั้นสูงสุด เช่น การทำความสะอาดบริเวณต้อนรับลูกค้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นประจำ พนักงานขาย เจ้าหน้าที่บริการหลังการขาย และทีมผู้เชี่ยวชาญ BMW Product Genius ซึ่งปฏิบัติงานภายในโชว์รูมได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกคน และยังได้รับการตรวจหาเชื้อเป็นประจำด้วยชุดตรวจ Antigen Test-Kit (ATK) อีกด้วยเพื่อปกป้องสุขภาพของลูกค้า นอกจากนี้ ลูกค้าที่ทดลองขับรถยนต์รุ่นใดก็ได้กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู ระหว่างวันที่ 25 – 26 กันยายน 2564 ยังจะได้รับของที่ระลึกเพื่อเป็นการต้อนรับลูกค้ากลับสู่โชว์รูมอีกครั้ง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 320Li Luxury ใหม่ ลูกค้าสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู หรือติดต่อศูนย์ BMW Contact Center ได้ที่เบอร์ 1397 หรือติดต่อบัญชี LINE อย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยูได้ที่ @bmwthailand หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bmw.co.th/

# # #

 

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป  

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้ 
แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 15 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก  

 

ในปี พ.ศ. 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์กว่า 2.3 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 169,000 คันทั่วโลก กำไรก่อนหักภาษีในปีงบประมาณ 2562 อยู่ที่ 7.118 พันล้านยูโร จากรายได้รวม 104.210 พันล้านยูโร โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 126,016 คนทั่วโลก 

 

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย  

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย  

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล  

 

ในปี 2563 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยสถิติส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิจำนวน 12,426 คัน โดยได้ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวม 11,242 ลดลง 4.3% จากปีก่อนหน้า ขณะที่มินิมียอดการส่งมอบ 1,184 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 1.7% ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังคงรักษาผลงานที่แข็งแกร่งไว้ได้ ด้วยยอดส่งมอบ 1,224 คัน แม้จะต้องประสบกับสถานการณ์โรคระบาดในปี 2563     

 

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนู 
แฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมา นอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 15 ประเทศทั่วโลก  

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 17 รุ่น ได้แก่ บีเอ็ม 
ดับเบิลยู ซีรีส์ 2 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็ม 
ดับเบิลยู X5 และบีเอ็มดับเบิลยู X7 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR  
บีเอ็มดับเบิลยู F750 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS บีเอ็ม 
ดับเบิลยู R 1250 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R และบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 5 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e  
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e และบีเอ็มดับเบิลยู 745Le xDrive  

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: 
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย 
1397 
www.bmw.co.th       
www.mini.co.th       
www.bmw-motorrad.co.th        

 

สื่อมวลชนติดต่อ  บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ 
สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102) 
ธรธวัช ทองแนบ (08-3225-4567 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 206) 
ปวริศา ธนวจีรัณ (08-6564-4726 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 125)    

นภสร ศรีวรรณวิทย์ (08-5862-7676 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 212)    
sboonsaeng@carlbyoir.com, tthongnab@carlbyoir.com, pthanwajeran@carlbyoir.com, nsriwannavit@carlbyoir.com

 

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้