สัมภาษณ์ CEO กระทิงดุ Stefan Winklemann ชายผู้ทำให้ Lamborghini กลับมาผงาดอีกครั้ง!

Last updated: 11 ม.ค. 2564  |  629 จำนวนผู้เข้าชม  | 

สัมภาษณ์ CEO กระทิงดุ Stefan Winklemann ชายผู้ทำให้ Lamborghini กลับมาผงาดอีกครั้ง!

Interviewer : Dr.Andre Lam
Translator : Link

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Lamborghini สามารถฝ่าฟันมรสุมมานับไม่ถ้วนจนพาบริษัทผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายยุคสมัยได้นั้นต้องยกเครดิตให้กับกลุ่มอภิมหาอำนาจยานยนต์แห่งยุโรป Volkswagen-Audi ที่เข้าซื้อกิจการที่ร่อแร่ยํ่าแย่สุดๆของค่ายกระทิงดุในปี 1999 ที่มียอดขายเพียง 300 คันต่อปีเท่านั้น โดยตั้งเป้าจะต้องกู้วิกฤต และกลับมาผงาดอย่างงดงามอีกครั้งให้ได้! และดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้เกินฝันเมื่อชายที่ชื่อ Stefan Winklemann ถูกดึงตัวมารับหน้าที่กุนซือนําทัพในปี 2005



ผลงานอันยอดเยี่ยมของ Winkleman ที่โลกต้องจารึกคือเขาสามารถพาบริษัทผู้ผลิตรถซูเปอร์คาร์สัญชาติอิตาเลี่ยนกลับมาผงาดอย่างงดงามอีกครั้ง กวาดยอดขายได้เกิน 3,000 คันต่อปีได้สำเร็จ เขาคือแรงผลักดันสำคัญให้บริษัทพัฒนากระทิงดุหัวใจ V12 โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีชื่อว่า “Aventador” ออกขาย และฝากผลงานชิ้นโบว์แดงสุดท้ายก่อนอำลาตำแหน่งซีอีโอของ Lamborghini ด้วยการโน้มน้าวให้บอร์ดบริหารระดับสูงของ VW-Audi อนุมัติผลิตรถยนต์สายพันธุ์ใหม่ที่มีความสำคัญสูงสุดเพื่อความอยู่รอดระยะยาวของแบรนด์ได้สําเร็จ รถคันนั้นคือ Urus เจ้าซูเปอร์เอสยูวีที่คนทั้งโลกร้องว้าวนั่นเอง!

หลังจากนําทัพให้ Lamborghini มายาวนานถึง 11 ปี เขาได้ตัดสินใจย้ายตําแหน่งใหม่เข้าใกล้บริษัทแม่อีกสเต็ปในตําแหน่งซีอีโอที่ Audi Sport ในปี 2016 แต่ไม่นานนักปี 2018 เขาก็ถูกเรียกให้มาดํารงตําแหน่งใหม่เป็นซีอีโอให้ Bugatti แบรนด์ผู้ผลิตรถไฮเพอร์คาร์ที่ถูกกลุ่ม VW-Audi ซื้อกิจการเช่นกัน

ในปี 2020 การจากไปของ Stefano Domenicali ที่ย้ายไปเป็นผู้บริหารที่ FIA ทำให้ตําแหน่งแม่ทัพของ Lamborghini ตกอยู่ในความระส่ำระสายอีกครั้ง แต่สิ่งที่เหลือเชื่อคือ Winklemann คือชายที่ได้รับภารกิจสำคัญนี้อีกครั้ง! "ผมได้รับสายจากบอร์ดบริการระดับสูง และผมตอบ “ตกลง” มันเป็นขั้นตอนของการสัมภาษณ์เสมอ สําหรับผมมันง่ายที่จะปรับตัวเพื่อกลับไปนําทัพ Lamborghini" Winklemann กล่าวซึ่งตอนนี้ผมจะดูแลทั้ง Lamborghini และ Bugatti ควบ 2 แบรนด์

ในช่วงเวลาระหว่างปี 2016-2020 ทั่วโลกให้ความสนใจเรื่องพลังงานไฟฟ้าเป็นอย่างมาก เมื่อกลับมารับตําแหน่งบริหารที่คอกกระทิงดุบ้านหลังเดิมเขาได้พูดถึงมุมมองของ Lamborghini เกี่ยวกับเทรนด์พลังงานไฟฟ้าว่า "เมื่อไรที่เราตัดสินใจที่จะทํารถไฟฟ้าออกขาย เมื่อนั้นต้องเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะทําเท่านั้น การยอมรับจากลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และเราต้องมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรถซูเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้าได้สมบูรณ์แบบด้วย”

เส้นทางสู่การพัฒนารถซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าของค่าย รวมถึงแผนพัฒนารถซูเปอร์คาร์ไฮบริดนั้นไม่ง่าย แต่ดูเหมือนทางเลือกหลังจะเหมาะกับ Lamborghini เพราะมันจะช่วยให้ เครื่องยนต์ V12 na อันยอดเยี่ยมของพวกเขาจะได้ไปต่อ Winklemann กล่าวว่า "แน่นอนว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าช่วยให้ปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับของการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงและควบคุมมลพิษได้ง่ายขึ้น แต่เราต้องมั่นใจว่ามันจะให้สมรรถนะเทียบเท่าหรือสูงกว่าเครื่องยนต์สันดาบ (ICE) นอกเหนือจากเรื่องผ่านกฎหมายควบคุมสิ่งแวดล้อม”



ในยุคหน้าที่เป็นยุคของรถขับเอง Winlklemann ย้ำว่า "ผมเชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่ทําออกมาแล้วถูกใจทุกคนได้ อนาคตแม้เราอาจจะเข้าสู่ยุครถไฟฟ้าขับเคลื่อนเองอัตโนมัติ แต่ผมเชื่อว่ายังมีที่ว่างให้แบรนด์อย่างเราอยู่ที่นั่นเสมอ อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมไม่มีแผนพัฒนารถขับเคลื่อนเองอัตโนมัติออกขายอย่างแน่นอน เพราะ Lamborghini คือรถที่ทํามาเพื่อให้คุณขับมันไม่ใช่นั่งเฉยๆให้มันขับให้"

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิด-19ในปัจจุบันเขาแสดงความคิดเห็นว่า "มันยากที่จะวิเคราะห์ว่าทำไม แต่การระบาดของโรคนี้ส่งผลกระทบต่อเราน้อยกว่าผู้ผลิตรายอื่น ปี 2020 เป็นปีที่ดีที่สุดของ Bugatti เท่าที่เคยมีมา ส่วน Lamborghini ได้รับผลกระทบน้อยกว่าการชะลอตัวในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเสียอีก"

ตอนนี้ Winklemann กล่าวว่า "สิ่งสำคัญลำดับแรกคือต้องเร่งปิดโปรเจกท์ทั้งปัจจุบันที่กําลังทําอยู่และโปรเจกท์ในอนาคตทั้งหมดให้ลุล่วงไปด้วยดี" เขายังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องจัดการและเร่งแก้ไขปัญหาที่ไม่เหมือนสมัยตอนที่ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารครั้งแรก แต่ไม่มีใครแล้วที่จะรู้จัก Lamborghini ดีไปกว่าเขา ชายที่คืนชีพให้แบรนด์กระทิงดุเมื่อ 15 ปีก่อนคนนี้

แม้ว่า Stefan Winkelmann จะเป็นชาวเยอรมัน แต่เขาได้รับตำแหน่ง Grand Officer ใน Order of Merit ของสาธารณรัฐอิตาลีในปี 2009 (Grande Ufficiale dell’Ordine al Merito della Repubblica Italiana) รางวัลนี้ถูกมอบให้เพื่อเป็นการยกย่องความสำเร็จของเขาในการพา Lamborghini แบรนด์ผู้ผลิตรถซูเปอร์คาร์อิตาลีให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ต่อมาในวันที่ 22 พฤษภาคม 2014 Stefan Winkelmann ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดของสาธารณรัฐอิตาลี Order of Merit of The Italian Republic, Knight Grand Cross เป็นรางวัลที่ทรงเกียรติสูงสุดที่ออกให้โดยประธานาธิบดีของอิตาลี “Motu Proprio” สำหรับความสำเร็จอันน่าทึ่งที่ Stefan Winkelmann สามารถทําผลงานได้ยอดเยี่ยมในฐานะซีอีโอของแบรนด์ที่สำคัญที่สุดแบรนด์หนึ่งของอิตาลี





เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้