Last updated: 4 พ.ย. 2562 | 977 จำนวนผู้เข้าชม |
X4 ใหม่มาครั้งนี้ไม่ได้มาเล่นๆโดดเด่นปราดเปรียวแฝงความสปอร์ตอันทรงพลังไว้ทุกอนู พ่วงด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยสุดๆออกทำตลาดในชื่อรุ่น X4 xDrive 20d M Sport ด้วยรูปทรงคอนเซปท์ Sports Activity Coupe ที่รวมเอาความอเนกประสงค์ของรถยนต์ SUV ผสมผสานเก็บความสปอร์ตของหลังคาที่ลาดเทแบบรถยนต์สปอร์ตคูเป้ที่เพิ่มให้ X4 ใหม่นั้นดูโฉบเฉี่ยว ดีไซน์ภายนอกถูกแต่งแต้มใหม่หมดจดเริ่มจากไตคู่หน้าที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยมี ไฟคู่หน้าแบบ LED ที่ซ่อนคริสตัลเรืองแสงรูปทรงหกเหลี่ยม ฝาประโปรงหน้าเสริมมัดกล้ามด้วยเส้นสายที่มีไดนามิก เสริมความดุดันขึ้นเต็มพิกัดด้วยกันชนหน้าและหลังแบบ M Sport ที่ช่วยเสริมให้ X4 สปอร์ตเต็มพิกัด โดยมิติตัวรถมีขนาดยาวขึ้น 81 มม. กว้างขึ้น 37 มม. และฐานล้อกว้างขึ้น 54 มม. และที่ขาดไม่ได้คือล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว โอบรัดด้วยยางสมรรถนะสูง ผสานกับช่วงล่างแบบ M Sport ที่ให้การยึดเกาะถนนอันยอดเยี่ยม
มาดูภายในห้องโดยสารกันบ้าง แผงคอนโซลหน้าสุดล้ำยุคเน้นความโปร่งโล่งทัศนวิสัยดีเยี่ยม ทุกสิ่งทุกอย่างถูกดีไซน์ให้อำนวยต่อที่นั่งคนขับสูงสุดเพราะไม่ว่าหน้าจอกลางและสวิทซ์ควบคุมต่างๆจะถูกวางตำแหน่งให้เข้าหาคนขับมากที่สุดตามปรัชญาการออกแบบภายในของ BMW ที่ถือปฏิบัติมานาน หน้าปัดบอกความเร็วและเข็มวัดรอบเป็นแบบ Full Digital อันล้ำยุคที่สามารถปรับเปลี่ยนกราฟฟิกแสดงผลบอกความเร็วและเข็มวัดรอบตามโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ สปอร์ตขั้นอีกระดับด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น M Sport ที่จับได้กระชับมือเบาะคู่หน้าทรงสปอร์ตตัดเย็บด้วยหนังแท้ Vernasca เดินตะเข็บคู่เพิ่มดีเทลให้ดูหรูหราพิเศษมากกว่าเดิม ส่วนแผงคอนโซลหุ้มหนัง Sensatec ตกแต่งภายในตามส่วนต่างๆด้วยวัสดุ Aluminium Rhombide พร้อมแถบโครเมี่ยมเสริมความโดดเด่น
ด้านขุมพลังของ BMW X4 ใหม่ซุกหัวใจที่ให้พละกำลังแรงและประหยัดเหมาะแก่การใช้งานครอบคลุมทุกกิจกรรมและที่สำคัญประหยัดค่าน้ำมันอีกด้วย มันคือเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 190 HP แรงบิดสูงสุดถึง 400 Nm มาที่รอบเครื่อง 1,750-2,500 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ภายใน 8 วินาที และพุ่งทะยานสู่ความเร็วปลายที่ 213 กม/ชม ส่งผ่านกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ Steptronic 8 จังหวะ จัดแรงขับไปสู่ล้อทั้ง 4 อัจฉริยะแบบ xDrive ที่ให้การยึดเกาะถนนได้ยอดเยี่ยมในทุกสภาวะแม้บนถนนเปียกลื่นหรือทาง off road ระบบจะสามารถปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจาก 4 ล้อไปเป็นขับเคลื่อน 2 ล้อได้ขึ้นอยู่กับสภาวะการขับขี่อัตโนมัติเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในเรื่องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ยิ่งผสานกับการใช้โครงสร้างน้ำหนักเบามากกว่ารุ่นก่อนด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientLightweight ทำให้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนถึง 50 กก. และยังมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.30 ที่ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดในเซกเมนต์เดียวกัน
สัมผัสเทคโนโลยีแห่งอนาคตด้วยหน้าจอ LCD กลางที่ให้ความคมชัดสูง สั่งการด้วยระบบ Gesture Control แบบเดี่ยวกับซีรี่ส์ 5 ใหม่ ที่ชาร์จมือถือแบบ Wireless charging และกุญแจรถอัจฉริยะแบบ Smart Key ที่สามารถตรวจสอบได้ว่ารถล็อกประตูหรือยัง แถมสั่งล็อกและปลดล็อกได้ทันที่ที่กุญแจ บอกระยะทางที่สามารถขับต่อได้จากน้ำมันที่เหลือ และตั้งอุณหภูมิในรถไว้ล่วงหน้าได้ก่อนเดินทาง ทั้งหมดนี้พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของด้วยราคา 3,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)