Ferrari Elettrica ว่าที่ซูเปอร์ EV 4 ประตูคันแรกจากมาราเนลโล้! พลังทะลุ 1,000 แรงม้า แต่หรู ใช้งานได้จริง และเสียงยังมีสไตล์แบบเฟอร์รารี่

Last updated: 9 ต.ค. 2568  |  317 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Ferrari Elettrica ว่าที่ซูเปอร์ EV 4 ประตูคันแรกจากมาราเนลโล้! พลังทะลุ 1,000 แรงม้า แต่หรู ใช้งานได้จริง และเสียงยังมีสไตล์แบบเฟอร์รารี่

ในที่สุดเฟอร์รารี่ก็เปิดข้อมูลของ “Elettrica” รถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันแรกในประวัติศาสตร์แบรนด์ หลังจากใช้เวลาพัฒนามานานหลายปี รถคันนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของม้าลำพองจากมาราเนลโล้สู่ยุคพลังงานสะอาดอย่างเต็มตัว โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2026 พร้อมเทคโนโลยีทุกส่วนที่เฟอร์รารี่พัฒนาเองทั้งหมด ตั้งแต่แบตเตอรี่ มอเตอร์ ไปจนถึงระบบควบคุมไฟฟ้า เพื่อให้สมศักดิ์กับโลโก้ม้าลำพองที่อยู่บนฝากระโปรง



Elettrica มาในรูปแบบ 4 ประตู 4 ที่นั่ง พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Quad-motor ที่ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมด 4 ตัว ให้กำลังรวมมหาศาลกว่า 1,000 แรงม้า (CV) แรงบิดสูงถึง 991 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุดราว 310 กม./ชม. แม้น้ำหนักตัวจะอยู่ที่ราว 2,300 กิโลกรัม แต่ยังมีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักถึง 435 แรงม้าต่อตัน ถือว่าแรงระดับไฮเปอร์คาร์ในร่างรถที่ใช้งานได้ทุกวัน

หัวใจสำคัญคือแบตเตอรี่ลิเธียม NMC ขนาดใหญ่ 122 kWh ระบบไฟ 800V ซึ่งเฟอร์รารี่เคลมว่าเป็นแบตเตอรี่ที่ “หนาแน่นพลังงานสูงที่สุดในโลก” ให้วิ่งได้ระยะทางมากกว่า 530 กม. WLTP/การชาร์จหนึ่งครั้ง ตัวแพ็กแบตถูกติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตัวรถเพื่อเพิ่มความแข็งแรง พร้อมการประกอบแบบ “in-house” ที่มาราเนลโล้ทั้งหมด เพื่อให้สามารถซ่อมหรือเปลี่ยนโมดูลได้ในอนาคตโดยไม่ต้องเปลี่ยนยกก้อน



ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะของ Elettrica ยังมาพร้อม Torque Vectoring เต็มรูปแบบและโหมด “Highway” ที่ตัดการทำงานมอเตอร์หน้า เพื่อให้ขับเคลื่อนล้อหลังและเพิ่มระยะทางการวิ่ง นอกจากนี้ ระบบเบรกคาร์บอนเซรามิกใหม่สามารถชะลอความเร็วได้แรงถึง 0.68g จากรีเจนเบรกเพียงอย่างเดียว

และแน่นอน เสียงของ “ม้าลำพองไฟฟ้า” ก็ยังคงเอกลักษณ์เฟอร์รารี่ไว้ครบ ด้วยระบบขยายเสียงจริงจากมอเตอร์หลังผ่านเซนเซอร์แบบปิ๊กอัพกีตาร์ไฟฟ้า ทำให้ทุกแรงเร่งและแรงยึดเกาะแปลเป็นเสียงแบบเรียลไทม์ พร้อมระบบ Torque Shift Engagement ที่ให้เลือก “ระดับแรงบิด” ได้ถึง 5 ระดับด้วยแป้นพายหลังพวงมาลัย เพิ่มความรู้สึกขับขี่แบบรถเครื่องยนต์จริง


ช่วงล่างใช้ระบบ Multimatic Active Suspension รุ่นใหม่ล่าสุดเหมือนใน Purosangue แต่เบาขึ้น 2 กก. ต่อมุมล้อ ปรับได้ละเอียดทั้งความนุ่มและความหนึบ มีระบบเลี้ยวล้อหลังสูงสุด 2.15 องศา ทำให้รถที่หนักกว่า 2 ตันยังคล่องตัวเหมือนรถสปอร์ตขนาดกลาง

ดีไซน์ยังไม่เปิดเผยเต็มรูปแบบ แต่เฟอร์รารี่ยืนยันว่าจะมาในสไตล์ “Cab-forward” ดันตำแหน่งคนขับให้ชิดล้อหน้าแบบ Berlinetta เพื่ออารมณ์สปอร์ตมากขึ้น บางส่วนของงานดีไซน์ร่วมกับทีมของ Jony Ive อดีตหัวหน้าทีมออกแบบ Apple ภายใต้บริษัท LoveFrom ซึ่งรับผิดชอบดีไซน์ให้แบรนด์หรูระดับโลกมากมาย

Elettrica จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2025 และเริ่มส่งมอบในปี 2026 โดยยังไม่ประกาศราคา แต่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงกว่า Purosangue พอสมควร เพราะนี่คือ “Ferrari ที่แรงระดับไฮเปอร์คาร์ แต่ใช้งานได้ทุกวัน” คันแรกในโลก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้