Aston Martin Vantage S ตัวแรงสุด รับบท FIA Safety Car เปิดตัวสนาม Dutch GP

Last updated: 1 ก.ย. 2568  |  343 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Aston Martin Vantage S ตัวแรงสุด รับบท FIA Safety Car เปิดตัวสนาม Dutch GP

เดือดตั้งแต่กริดสตาร์ท! Aston Martin ประกาศให้ Vantage S รุ่นใหม่ล่าสุด—ซึ่งเป็น Vantage ที่โหดและเน้นสมรรถนะที่สุดเท่าที่เคยทำมา—เข้ารับบทเป็น Official FIA Safety Car of Formula 1® โดยจะลงปฏิบัติหน้าที่ครั้งแรกสุดสัปดาห์นี้ที่ FORMULA 1® HEINEKEN DUTCH GRAND PRIX ณ สนาม Zandvoort ประเทศเนเธอร์แลนด์ วันที่ศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2025 ตามเวลาเกย์ดอน สหราชอาณาจักร

หัวใจทั้งหมดอยู่ใต้ฝากระโปรงกับเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบแบบแฮนด์บิลด์ รีดพลังสูงสุด 680 แรงม้า พร้อมแรงบิด 800 นิวตันเมตร ปล่อยพลังแบบไม่ต้องรอเทอร์โบ พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 325 กม./ชม. (202 ไมล์/ชม.) ตัวเลขนี้บอกชัดว่าพร้อมนำหน้ารถสูตรหนึ่งได้อย่างไม่เคอะเขินในทุกสภาพแทร็กเมื่อมีการเคลียร์เหตุการณ์หรือรีสตาร์ทการแข่งขัน

เพื่อให้เสถียรภาพเป๊ะทุกย่านความเร็ว Vantage S คันนี้ติดตั้งชุดแอโรไดนามิกที่พัฒนาเฉพาะงาน ประกอบด้วยสปอยเลอร์ท้ายเต็มความกว้างบนเด็คลิดออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มดาวน์ฟอร์ซด้านหลัง โดยยังคงบาลานซ์กำลังกดให้เทไปด้านหน้าตามความต้องการของสนามแข่งจริง ด้านหน้าฝากระโปรงมี “bonnet blades” ติดตั้งกึ่งกลางเพื่อรีดลมร้อนออกจากห้องเครื่องแบบ ‘hot-V’ ได้รวดเร็วขึ้น ช่วยเสถียรภาพอุณหภูมิขณะวิ่งเคลื่อนขบวน ส่วนงานภารกิจสนามก็มาครบด้วยไฟไซเรน FIA lightbar บนหลังคาและอุปกรณ์สื่อสารเฉพาะ เพื่อให้สัญญาณและทัศนวิสัยชัดเจนเมื่อถูกเรียกใช้งานกลางฝูงม้าศึก F1®



อเล็กซ์ ลอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดระดับโลกของ Aston Martin ย้ำภาพชัดเจนว่า Vantage S คือจุดสูงสุดของสมรรถนะในรถที่เปรียบเสมือนหัวใจของแบรนด์ พละกำลังที่เพิ่มขึ้นและความคล่องแคล่วที่ดุดันยิ่งกว่าเดิมทำให้มัน “เกิดมาเพื่อบทบาท Safety Car” และเป็นช่วงเวลาน่าภาคภูมิใจของทั้งพนักงานและลูกค้าทั่วโลกที่ได้เห็นโลโก้ปีกสวยนำหน้ากองทัพ F1® ทุกครั้งที่ต้องคุมเกมความปลอดภัย

ฝั่งคนขับภารกิจอย่าง แบร์นด์ ไมแลนเดอร์ ก็การันตีว่าก้าวใหม่ของ Vantage S ทำให้การตอบสนองรวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัยยิ่งขึ้น ทั้งการนำขบวนหลังเหตุการณ์, การเคลียร์เศษชิ้นส่วนบนแทร็ก ไปจนถึงการควบคุมจังหวะการแข่งขันก่อนโค้งรีสตาร์ท ซึ่งความคมของพวงมาลัย บาลานซ์ดาวน์ฟอร์ซ และแรงยึดเกาะในโค้งคือหัวใจเมื่อมี “สุดยอดนักขับของโลก” ไล่หลังมาเป็นพรวน

เพื่อความกลมกลืนกับโลก F1® ภายนอกมาในสีเขียว Podium Green โทนเดียวกับรถของ Aston Martin Aramco Formula One® Team เสริมบุคลิกเข้มแบบรถงานสนามโดยเฉพาะ ขณะเดียวกันฝั่งช่วยชีวิตยังคงไว้ใจ Aston Martin DBX707 ทำหน้าที่ Official FIA Medical Car ต่อเนื่อง พร้อมออกสตาร์ทติดตามทุกครั้งที่จำเป็น

สรุปให้สั้นแบบได้อารมณ์ ก็คือ “ความปลอดภัย” ใน F1® ไม่เคยดูเร้าใจและฟังแล้วขนลุกเท่านี้มาก่อน และนับจาก Zandvoort เป็นต้นไป เราจะได้ยินเสียง V8 4.0 ทวินเทอร์โบจาก Vantage S คุมจังหวะเกมในนาทีคับขันของโลกความเร็วใบนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้