Mitsubishi Destinator เปิดตัวอย่างเป็นทางการ: รถเอสยูวี 7 ที่นั่ง พร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ

Mitsubishi ขอปล่อยหมัดเด็ดส่งตรงจากอินโดนีเซีย กับ SUV 7 ที่นั่งรุ่นใหม่หมดจด “Destinator” ที่ไม่ใช่แค่ชื่อเท่ แต่ยังมาพร้อมความสามารถลุยได้จริง แถมดีไซน์เฉียบ ฟีเจอร์เพียบ และขุมพลังเทอร์โบแรงจัดจ้านในย่านนี้

ต้นแบบของรุ่นนี้คือ DST Concept ที่เคยเผยโฉมในงาน Philippine International Motor Show ปี 2024 ก่อนจะถูกแปลงร่างเป็นเวอร์ชันโปรดักชันเต็มตัวภายใต้ชื่อ Destinator ซึ่งจะวางตำแหน่งอยู่เหนือ Xpander Cross แต่ยังต่ำกว่า Montero Sport ในไลน์อัปของมิตซูบิชิ โดยรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ให้พละกำลัง 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร พร้อมโหมดขับขี่ 5 แบบ และยังเป็นครั้งแรกที่ใส่ “Tarmac Mode” เข้ามา แม้ระบบขับเคลื่อนยังเป็นล้อหน้า แต่ก็ให้ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถถึง 224 มม. ซึ่งถือว่าสูงเอาเรื่องสำหรับรถในกลุ่มเดียวกัน

ดีไซน์ภายนอกใช้ภาษาการออกแบบ Dynamic Shield ที่เราเคยเห็นใน Xforce เสริมความเฉียบด้วยไฟหน้า-ไฟท้ายทรง T โดดเด่นล้ำสมัย ล้ออัลลอย 18 นิ้วมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จุดที่น่าสนใจคือหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกของ Mitsubishi ในกลุ่มราคาระดับนี้ที่ใส่มาให้

สำหรับตลาดแรกที่เปิดตัวคืออินโดนีเซีย โดยมี 3 เกรดให้เลือก ได้แก่ GLS, Exceed และ Ultimate พร้อมสีตัวถัง 5 เฉด ได้แก่ ขาว Quartz White Pearl, น้ำเงิน Lunar Blue Mica, เทา Graphite Gray Metallic, ดำ Jet Black Mica และเงิน Blade Silver Metallic

ภายในห้องโดยสารอัดแน่นด้วยความไฮเทคแบบจัดเต็ม ทั้งหน้าปัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ จอกลางแบบสัมผัส Smart-link Display Audio ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบปรับอากาศแบบแยกฝั่ง พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ไฟในห้องโดยสารแบบ Ambient Light ปรับสีได้ถึง 64 เฉด เบาะนั่งบุวัสดุกันร้อน พร้อมช่อง USB ทั้งแบบ A และ C ยาวไปถึงแถว 3 เพิ่มความสะดวกด้วยเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold และฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบแฮนด์ฟรี ขณะที่ระบบเสียง Yamaha Premium ก็ถูกจูนมาเฉพาะรุ่นนี้โดยตรง

ด้านเทคโนโลยีล้ำๆ ก็มี Mitsubishi Connect ที่สามารถเช็กสถานะรถและสั่งงานบางฟังก์ชันผ่านแอปฯ บนสมาร์ตโฟนได้ อีกทั้งยังใส่ระบบความปลอดภัย Diamond Sense ซึ่งเป็นชุดช่วยขับกึ่งอัตโนมัติของมิตซูบิชิ ที่รวมฟังก์ชันอย่างเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Mitigation มาให้ด้วย

ราคาจำหน่ายในอินโดนีเซียเริ่มต้นที่ราว 400 ล้านรูเปียห์ (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) ไปจนถึงรุ่นท็อปที่ 500 ล้านรูเปียห์ (ราว 1.75 ล้านบาท) ผลิตที่อินโดนีเซียเพื่อทำตลาดในอาเซียนเป็นหลัก รวมถึงฟิลิปปินส์อย่างแน่นอน และหลังจากนั้นยังจะมีการส่งออกไปยังลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกาอีกด้วย

ใครที่กำลังมองหา SUV 7 ที่นั่งแบบครบเครื่อง ลองรอดู Destinator เข้าไทยให้ดี เพราะของแบบนี้มาแน่แต่เมื่อไรเท่านั้นเอง!