Mazda CX-5 2026: กลับมาใหม่ ใหญ่กว่าเดิม เท่กว่าเดิม...แต่ปุ่มหาย!

แม้ CX-50 กับ CX-70 จะเพิ่งเฉิดฉายไปไม่นาน แต่ Mazda ยังไม่ทิ้งรุ่นแม่อย่าง CX-5 แน่นอน เพราะนี่แหละคือหัวใจหลักของยอดขายทั่วโลก และในปี 2026 พวกเขาพร้อมเขย่าตลาดอีกครั้งด้วยการแปลงโฉมครั้งใหญ่ในรอบเกือบสิบปี!

ถึงภายนอกอาจดูคุ้นตา แต่ Mazda CX-5 ใหม่คือการรีบูตทั้งคัน เริ่มจากขยายฐานล้อเพิ่มขึ้น 3 นิ้ว ทำให้ความยาวรวมแตะ 184.6 นิ้ว ยาวขึ้นจากเดิม 4.5 นิ้ว เข้าใกล้คู่แข่งเบอร์ต้นอย่าง Honda CR-V (184.8 นิ้ว) และ Nissan Rogue (183 นิ้ว) แบบประชิด

ผลลัพธ์คือ ประตูเปิดกว้างกว่าเดิม เข้า-ออกสะดวกขึ้น โดยเฉพาะผู้โดยสารเบาะหลังที่เคยบ่นว่าคับก็จะหายบ่น เพราะ Mazda เคลมว่าพื้นที่ตอนหลังคือ “กว้างที่สุดรุ่นหนึ่งในคลาส” ส่วนท้ายรถก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย ช่องเก็บสัมภาระเปิดกว้างขึ้น สูงต่ำลงอีกครึ่งนิ้ว บวกกับความยาวและความสูงของพื้นที่บรรทุกเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ช่วยให้ขนของง่ายขึ้นเยอะ

งานดีไซน์ก็เปลี่ยนไม่น้อย ภายใต้แนวทาง “Kodo Design” เวอร์ชันใหม่ ที่เน้นความเฉียบคมมากขึ้น ด้านหน้าโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบซ้อนสองชั้น และกระจังหน้า “Wing” ที่ถูกเหลาให้ดูเฉียบเฉี่ยว เส้นสายกันชนใหม่เน้นความกว้างของตัวรถให้ดูทรงพลังยิ่งขึ้น ขณะที่ด้านท้ายเพิ่มคำว่า “MAZDA” แบบเต็มคำบนฝากระโปรงท้าย ไฟท้ายดีไซน์ใหม่คล้าย CX-70 เสริมลุคหรู สปอร์ตลงตัว ส่วนรุ่นท็อปจะได้ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วลายใหม่มาเสริมหล่อ

ขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร N/A 4 สูบ ให้กำลัง 187 แรงม้า แรงบิด 185 ปอนด์ฟุต ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อย

แม้ปีนี้ยังไม่มีขุมพลังไฟฟ้ามา แต่ Mazda ยืนยันแล้วว่าในปี 2027 จะเปิดตัว CX-5 Hybrid รุ่นใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์ Skyactiv-Z ซึ่ง Mazda ยกให้เป็น “เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ดีที่สุด” ด้วยประสิทธิภาพความร้อนที่สูงกว่า Skyactiv-G และช่วงแรงบิดที่กว้างกว่าเดิม ไม่เหมือน CX-50 Hybrid ที่ใช้เทคโนโลยีจาก Toyota แต่ CX-5 Hybrid จะเป็นเทคโนโลยีของ Mazda เองแบบ 100%

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปชัดที่สุดอาจอยู่ในห้องโดยสาร เพราะ Mazda ทิ้ง “ปุ่ม” เกือบหมด! แผงแดชบอร์ดใหม่สะอาดตา ไม่มีปุ่มกดใด ๆ เลยบนคอนโซลกลาง แถมตัดปุ่มควบคุมเสียงและคอนโทรลเลอร์แบบลูกบิดออกไปหมดแล้ว แทนที่ด้วย จอทัชสกรีนขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดที่เคยใส่ในรถ Mazda พร้อมระบบ Google Built-in ทั้ง Google Assistant, Maps และอื่น ๆ ใช้งานลื่นไหล

อย่างไรก็ตาม ยังมีปุ่มกดแบบจริงจังอยู่บนพวงมาลัย (ไม่ใช่ระบบสัมผัสเหมือนบางเจ้า) ซึ่งถือเป็นการประนีประนอมระหว่างความล้ำกับความใช้งานจริง

ด้านระบบความปลอดภัยก็จัดเต็ม ด้วยเทคโนโลยี ADAS เวอร์ชันล่าสุดของ Mazda ที่เพิ่มเติมจากรุ่นก่อน พร้อมช่วยเหลือผู้ขับในทุกสถานการณ์

แม้ Mazda ยังไม่เปิดเผยราคาทางการ แต่ CX-5 รุ่นปี 2025 เริ่มต้นที่ $30,265 (รวมค่าขนส่ง) ดังนั้นรุ่น 2026 อาจขยับขึ้นเล็กน้อยไปแตะประมาณ $32,000 ซึ่งก็ยังอยู่ในโซนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

การวางจำหน่ายคาดว่าจะเริ่มทันภายในสิ้นปีนี้ เตรียมตัวให้พร้อม เพราะนี่คือ CX-5 ที่คุณรู้จัก...ในเวอร์ชันที่ใหญ่ขึ้น เฉียบขึ้น ล้ำขึ้น และไร้ปุ่มแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน!