Last updated: 9 มิ.ย. 2568 | 430 จำนวนผู้เข้าชม |
ถ้ามีรถสักคันที่ควรเรียกว่า "ของสะสมที่ขับได้จริง" Valkyrie LM ก็คือคำตอบแบบไม่ต้องสงสัย เพราะนี่ไม่ใช่รถทั่วไป ไม่ใช่รถถนน และก็ไม่ใช่รถแข่งธรรมดา ๆ แต่มันคือการรวมร่างของรถแข่งระดับ Le Mans กับความเอ็กซ์คลูซีฟระดับมหาเทพที่มีเพียง 10 คันเท่านั้นในโลกใบนี้
จุดเริ่มต้นของยานแม่ Valkyrie LM
Valkyrie LM (LM = Le Mans) ถูกเปิดตัวเพียงไม่กี่วันหลัง Porsche เผยโฉม 963 one-off เวอร์ชันวิ่งถนน โดย Valkyrie LM ถูกออกแบบมาเป็น เวอร์ชันสนามแข่งสุดลิมิเต็ด ของไฮเปอร์คาร์ Valkyrie ที่เรารู้จักกันดี
โดยมันสร้างขึ้นจากพื้นฐานเดียวกับ Valkyrie AMR Pro และรถแข่งที่จะลง Le Mans 2025 – ใช่แล้ว... นี่คือรถที่ แทบจะยกรถแข่งจริงมายัดในมือเจ้าของ เพียงแค่ปรับให้ไม่ต้องติดบาลานซ์หรือลิมิตจากกฎการแข่งขันอีกต่อไป
เครื่องยนต์: ดิบ เถื่อน บ้าพลัง... แต่ถูกจำกัด!
หัวใจของ Valkyrie LM คือเครื่องยนต์ Cosworth V12 ขนาด 6.5 ลิตร แบบ ไร้เทอร์โบ (Naturally Aspirated) ที่ให้เสียงคำรามอันเป็นเอกลักษณ์ และถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ V12 ที่ “ดนตรีเพราะที่สุด” ในวงการรถสมัยใหม่
แม้ว่าจะไม่มีข้อจำกัดด้านกฎ FIA แล้ว แต่น่าแปลกที่ Aston กลับจำกัดแรงม้าไว้ที่ 697 แรงม้า (เทียบกับ Valkyrie Road Car ที่พุ่งถึง 1,000 แรงม้า) ซึ่งมีเหตุผลบางอย่างที่น่าจะเกี่ยวกับการบาลานซ์แรงบิดและการควบคุมในสนามแบบมืออาชีพ เกียร์ 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง น้ำหนักรถอยู่ที่เพียง 1,030 กิโลกรัม — เบาราวกับรถแข่งสูตรหนึ่ง!
แรงกด – แรงเบรก – แรงเหวี่ยง
ถึง Aston จะยังไม่เปิดเผยตัวเลขแรงกด (downforce) แบบเป๊ะ ๆ แต่เขาบอกว่า Valkyrie LM สามารถทำแรงเหวี่ยงขณะเข้าโค้งได้ถึง 3.5g และแรงเบรกได้สูงสุดถึง 2.5g — ตัวเลขระดับนี้คือ "ติดเบาะชนิดลืมหายใจ" แน่นอน
ตัวถังมีแอโรไดนามิกขั้นสุดแบบเดียวกับรถ Le Mans จริง ทั้งสปลิตเตอร์หน้า ดักลมข้าง แฟลปหลัง และดิฟฟิวเซอร์ที่ทำงานประสานกันเป็นชิ้นเดียว
ช่วงล่างใช้ ระบบดับเบิ้ลวิชโบนหน้า-หลัง แบบเดียวกับรถแข่ง พร้อมล้อแม็กน้ำหนักเบาและยาง Pirelli Slicks แบบเฉพาะรุ่น
เบรกก็ไม่ธรรมดา — ใช้ คาร์บอนเบรกเต็มระบบ ที่ทนความร้อนสูงเหมือนในสนามแข่งจริง
ภายใน: สนามแข่งเท่านั้น ไม่มีความหรูใด ๆ ทั้งสิ้น
บอกเลยว่าใครคาดหวังหนังแท้ กลิ่นไม้หอม หรือระบบอินโฟเทนเมนต์สุดหรู — ลืมไปได้เลย
Valkyrie LM เป็น Single Seater (นั่งคนเดียว) เบาะคาร์บอนไฟเบอร์ขึ้นรูปพอดีตัว พวงมาลัยแบบรถ F1 พร้อมจอแสดงข้อมูลการแข่ง และไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่จำเป็นให้เกะกะสายตา
ไม่มีระบบช่วยขับ ไม่มีถุงลมนิรภัย ไม่มีเซ็นเซอร์ถอยหลัง — มีแต่ “สมาธิและพละกำลัง” ของคนขับเท่านั้นที่ควบคุมมันได้
เจ้าของจะได้อะไร?
Aston Martin ไม่ได้ขายรถอย่างเดียว แต่เขาขาย ประสบการณ์ระดับสุดยอด ให้กับเจ้าของด้วย
ใครได้เป็นเจ้าของ Valkyrie LM จะได้รับสิทธิ์เข้าโปรแกรมฝึกขับระดับมืออาชีพที่สนาม Silverstone (อังกฤษ) พร้อม “ใบขับขี่สนาม” เพื่อให้สามารถควบคุมรถคันนี้ได้อย่างแท้จริง
และในปีถัดไปจะมี Track Days ส่วนตัว ในสนามระดับ F1 ทั่วโลก เช่น Spa, Monza, Suzuka และอาจรวมถึง Sepang ด้วย (ถ้าจัดในเอเชีย) พูดง่าย ๆ คือ คุณไม่ได้แค่ซื้อรถ แต่คุณซื้อ ประตูสู่โลกของนักแข่งรถ endurance มืออาชีพ
ราคาและการส่งมอบ?
Aston ยังไม่เปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการ (แน่นอนว่าคนที่มีสิทธิเห็นราคานั้นต้อง “สายแข่ง + สายสะสม + มหาเศรษฐีตัวจริง”)
แต่รถคันแรกจะส่งมอบในปี 2026 และ Aston ยืนยันว่า มีแค่ 10 คัน เท่านั้นในโลก ไม่มีทำเพิ่ม และไม่มีเวอร์ชันถนน
สรุปสไตล์คนบ้าแข่ง
Valkyrie LM ไม่ใช่รถที่คุณจะเอาไปขับกาแฟตอนเช้า หรือเอาไปอวดหน้าห้าง แต่มันคือ เครื่องมือที่สร้างขึ้นเพื่อสนามแข่ง สำหรับคนที่มีทั้งเงิน เวลา ทักษะ และใจที่พร้อมจะบุกสนามด้วยความเร็วระดับ F1 มันคือของเล่นที่ “มหาเศรษฐีสายแข่ง” เท่านั้นที่ได้แตะ และที่สำคัญที่สุด มันคือการเป็นเจ้าของ ตำนาน ในรูปแบบที่สัมผัสได้ — ด้วยมือทั้งสองของคุณเอง