New Honda City Hatchback โฉม Facelift มาพร้อม 2 ขุมพลังทางเลือกทั้งระบบฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลัง VTEC TURBO

Last updated: 7 ก.พ. 2567  |  560 จำนวนผู้เข้าชม  | 

New Honda City Hatchback โฉม Facelift มาพร้อม 2 ขุมพลังทางเลือกทั้งระบบฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลัง VTEC TURBO

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ มาพร้อมราคาพิเศษ ทั้งรุ่นระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่เข้าถึงง่ายขึ้นด้วยราคาใหม่ รุ่น e:HEV RS 799,000 บาท และเพิ่มรุ่นย่อย e:HEV SV ราคา 729,000 บาท พร้อมด้วยรุ่นขุมพลัง VTEC TURBO ที่เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานและอัปเกรดความปลอดภัยอีกขั้นกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย ด้วยราคา 599,000 – 749,000 บาท พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษ** อาทิ Double Smile Plus ขับฟรีสูงสุด 6 เดือน** ดาวน์เริ่มต้น 5% เพียง 29,950 บาท** หรือเลือกผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 5,484 บาท** เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ได้ง่ายยิ่งขึ้น เสริมความมั่นใจในรุ่น e:HEV รับเพิ่มการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** เมื่อจองและรับรถตั้งแต่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 – 30 เมษายน 2567 ดีไซน์ภายนอกของ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ปรับโฉมสปอร์ตใหม่รอบคัน โดดเด่นปราดเปรียวในสไตล์รถแฮทช์แบ็ก ภายในห้องโดยสารกว้างสบาย มาพร้อมเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR Seat) อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ที่สามารถปรับพับเพิ่มสเปซการใช้งานได้ดั่งใจ พร้อมเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch ที่เพิ่มการรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย* และใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง* อีกทั้งหลากหลายเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย ขับเคลื่อนสู่ทุกเส้นทางอย่างทรงพลังกับ 2 ขุมพลัง ทั้งระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยเกียร์ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองดั่งใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมยิ่งขึ้นที่ 27.8 กม./ลิตร และขุมพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร ขับสนุกทุกอัตราเร่งด้วยกำลังสูงสุด 122 แรงม้า พิเศษกับสีภายนอกน้ำเงิน บริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำแบบ Two-tone ใหม่ เฉพาะรุ่น e:HEV RS และ e:HEV SV พร้อมให้ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองขับ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป

ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ มีให้เลือก 2 ขุมพลังขับเคลื่อน รวม 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็นรุ่นขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย

รุ่น e:HEV RS  ราคา 799,000 บาท

รุ่น e:HEV SV  ราคา 729,000 บาท

รุ่นขุมพลัง VTEC TURBO  มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย

รุ่นRS  ราคา 749,000 บาท
รุ่น SV ราคา 679,000 บาท
รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท

ดีไซน์ใหม่ อัปลุคสปอร์ตขึ้นอีกขั้น สะดวกสบายไปกับห้องโดยสารกว้างขวาง
การออกแบบภายนอก โดดเด่นโฉบเฉี่ยวสไตล์รถสปอร์ตแฮทช์แบ็กใหม่! กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่
ใหม่! กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV) ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)

พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และโลโก้ e:HEV ที่ด้านท้าย เอกลักษณ์เฉพาะรถ e:HEV ของฮอนด้า (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
มือจับเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)
เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น S+, SV และ e:HEV SV)
ใหม่! ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 15 นิ้ว (รุ่น S+) ขนาด 15 นิ้วแบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV)
การออกแบบภายใน กว้างขวาง โปร่งโล่ง มอบความสะดวกสบายตลอดการเดินทางใหม่! วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีเทา (รุ่น SV และ e:HEV SV)
วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีดำ Piano Black
มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเองด้วยเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) แยกพับ 60:40 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มสเปซการใช้งานอเนกประสงค์ได้ดั่งใจ พร้อมด้วยห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของฮอนด้า โดยปรับเปลี่ยนได้ถึง 4 โหมด ได้แก่Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง
Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
Tall Mode: เบาะด้านหลังพับขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง
Refresh Mode: เบาะด้านหน้าพับเชื่อมต่อกับเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด
เสริมสปิริตความสปอร์ตขึ้นอีกขั้น ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน ในรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RSใหม่! กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ตแบบ RS
ใหม่! กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ตแบบ RS
ใหม่! เพิ่มสเกิร์ตข้าง สไตล์สปอร์ตแบบ RS
สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ตแบบ RS
ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
ใหม่! ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์สปอร์ตใหม่
ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา
เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา
ใหม่! ล้ออัลลอยสีดำแบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
ใหม่! วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง
มูฟไปข้างหน้าอย่างมีพลังในทุกเส้นทาง กับ 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ทรงพลัง ตอบโจทย์ในทุกเส้นทางด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบการตอบสนองได้ดั่งใจตั้งแต่ออกตัวกับแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 3,000 รอบต่อนาที และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมยิ่งขึ้นที่ 27.8 กม./ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 85 กรัม/กิโลเมตร และรองรับน้ำมัน E20 ทั้งนี้ ระบบฟูลไฮบริด e:HEV จะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติตามความเหมาะสมและสถานการณ์การขับขี่ ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
พร้อมเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ e:HEV SV เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่เทคโนโลยีฟูลไฮบริดจากฮอนด้าในรถซิตี้คาร์ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ขุมพลัง TURBO กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ที่มาพร้อม Turbocharger ขับสนุกทุกเส้นทาง มอบอัตราเร่งแรงเร้าใจได้ตามคิดด้วยกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 - 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) อีกทั้งประหยัดน้ำมันเกินคาดด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่สูงถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 100 กรัม/กิโลเมตร และรองรับน้ำมัน E20

มั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน รองรับทุกการขับขี่
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) (รุ่น S+, SV และ RS) พร้อม ใหม่! ระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ใหม่! ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
  • พร้อมด้วยเทคโนโลยีด้านการขับขี่และความปลอดภัยที่ครบครัน* อาทิระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV RS)
  • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) ที่มีการพัฒนาคุณภาพของกล้องให้มีความละเอียดสูงขึ้น
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบ Auto Brake Hold (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ถุงลมคู่หน้า
  • ถุงลมด้านข้างคู่หน้า
  • ม่านถุงลมด้านข้าง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
  • เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและหลังแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
  • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
  • ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
  • หลากหลายเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและฟังก์ชันล้ำสมัยเชื่อมต่อรถกับผู้ใช้งานได้อย่างลงตัวใหม่! ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) ที่ได้พัฒนาการแสดงผลสีของหน้าจอให้คมชัดยิ่งขึ้น พร้อมปรับโฉม Interface ใหม่ ให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
  • ใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) และด้านหน้า 1 ตำแหน่ง (รุ่น S+)
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS)
  • ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ปุ่ม ECON
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • กระจกมองหลังแบบตัดแสง
  • แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ไฟอ่านแผนที่และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
  • ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
  • พนักเท้าแขนด้านหน้า (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว (รุ่น RS และ e:HEV RS)
  • ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งคนขับและหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของขนาดเล็ก (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
  • ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)

ยกระดับชีวิตให้สมาร์ตขึ้นไปอีกขั้นกับ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ (รุ่น RS และ e:HEV RS) ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ที่ประกอบด้วย 8 ฟังก์ชันล้ำสมัยเชื่อมต่อและรองรับทุกการใช้งานของทุกไลฟ์สไตล์My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป Car Log ข้อมูลการขับขี่จะประกอบด้วยพฤติกรรมการขับขี่ ที่สามารถแสดงผลเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี และบันทึกการเดินทางที่สามารถเลือกทริปโปรดและแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก และเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์เดิม) เป็นต้น WiFi สามารถเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ โดยจะใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ มีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร โดยต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง

*ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่าย (เอไอเอส) โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และแจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และการสั่งดับเครื่องยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้