BMW โชว์แนวคิดผลิตยานยนต์เมืองแห่งอนาคตที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

Last updated: 27 ก.ย. 2564  |  1064 จำนวนผู้เข้าชม  | 

BMW โชว์แนวคิดผลิตยานยนต์เมืองแห่งอนาคตที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

BMW โชว์แนวคิดผลิตยานยนต์เมืองแห่งอนาคตที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

 

 

หนึ่งในแม่เหล็กที่ดึงดูดทุกสายตา ที่งาน IAA Mobility 2021 ที่นครมิวนิค มันคือต้นแบบรถยนต์ซิตี้คาร์สุดล้ำยุค “BMW i Vision Circular” จากค่ายใบพัดฟ้าขาวนั่นเอง ด้วยแนวคิดที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพื่อใช้เป็นแนวทางผลิตรถไฟฟ้าสำหรับคนเมืองใช้ในปี 2040 จึงเป็นที่มาของคอน-เซปท์ “Circular economy” 


ที่ประกอบได้ด้วย 4 หัวข้อหลักๆ ตามนี้

•  RE : THINK       คิดใหม่ทำใหม่  ทุกชิ้นส่วนต้องถูกนำมาใช้ซ้ำได้และผลิตจากวัตถุดิบรีไซเคิลเป็นหลัก

•  RE : DUCE        ใช้เท่าที่จำเป็น โดยนำเทคโนโลยี 3D Printing มาใช้ผลิตอะไหล่หรือชิ้นส่วนประกอบต่างๆ อย่างมี ประสิทธิภาพ ช่วยลดการใช้วัตถุดิบส่วนเกินได้ดี ทำให้ควบคุมวัตถุดิบในการผลิตได้แม่นยำ ลดความสิ้นเปลือง                          

• RE  : USE           แนวคิดที่ต้องการให้อายุทำตลาดของรถยาวนานขึ้น ไม่จำเป็นต้องผลิตเปลี่ยนแบบใหม่ไปทุกครั้ง   ด้วยการทำให้รถสามารถปรับเปลี่ยนดีไซน์ได้ตลอดเวลาได้ด้วยการเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆ ทีสามารถถอดแยกและเปลี่ยนเข้าไปใหม่ได้ง่าย ทำให้สามารถอัพเกรดดีไซน์ได้ไม่รู้จบ ทำให้ไม่ต้องลงทุน เพื่อเปลี่ยนโมเดลใหม่ๆ ลดการใช้ทรัพยากรได้ดี

• RE  : CYCLE      อีกหนึ่งแนวคิดที่สำคัญถือเป็นหัวใจในการพัฒนา BMW i Vision Circular คือ “นำวัสดุใช้แล้วมา  ผลิตซ้ำเป็นหลัก” (Secondary first approach) อาทิ การนำอลูมิเนียมใช้แล้ว หรือ เหล็กใช้แล้ว มาผลิตซ้ำ ซึ่งขั้นตอนนำวัตถุดิบใช้แล้วมาเข้าขบวนการรีไซเคิล เพื่อนำมาใช้ผลิตใหม่นั้นทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการขุดหาแร่เหล็กขึ้นมาใหม่เพื่อนำไปผลิตอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันนี้หลักการ
ดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้ผลิตรถยนต์ของ BMW รุ่นปัจจุบันออกขายสู่ตลาดในอัตราส่วนของการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ถึง 30% และจะพยายามผลักดันตัวเลขให้สูงถึง 50% ในอนาคตอันใกล้นี้!


                
ส่วนเรื่องงานดีไซน์นั้น BMW i Vision Circular ถูกตีความใหม่หมดด้วยภาษาการออกแบบที่สอดคล้องกับหลักการ RE:THINK และ RE:USE เป็นหลัก ทุกดีเทลจึงถูกออกแบบมาอย่างฉลาด และเปี่ยมไปด้วยฟังค์ชั่นการใช้งานที่ยอดเยี่ยม กระจังไตคู่หน้า ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของค่ายถูกออกแบบใหม่มีขนาดกว้างครอบคลุมความกว้างของฝากระโปรงหน้า แอบซ่อนไฟหน้าและไฟเดย์ไทม์ LED ในตัวที่ดูล้ำนำสมัย บอดี้ดีไซน์ของรูปทรงตัวถังมีขนาดเล็กกะทัดรัดไม่เทอะทะ  และลดทอนชิ้นส่วนรุงรังให้ความรู้สึกที่เรียบเนียน ใช้วัสดุน้อยแต่ฉลาดลงตัวที่สุด การวางตำแหน่งล้อคู่หน้า และคู่หลังถูกวางไว้ปลายสุดของตัวรถ เพื่อยืดความยาวฐานล้อให้ได้ยาวที่สุด เพื่อเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสารสูงสุด แต่ก็ยังคง DNA ความสปอร์ตในสายเลือดของค่ายด้วยการดีไซน์ขนาดโป่งล้อหน้า-ล้อหลัง ให้มีความบึกบึนดูแน่นแบนเตี้ยมีความสปอร์ต  ความเจ๋งอีกอย่างของรถคันนี้คือไม่ได้พ่นสีตัวถังตามขั้นตอนดั่งเดิมที่ก่อให้เกิดมลพิษเลยแม้แต่น้อย แต่ใช้การชุบอโนไดซ์สีทองลงบนตัวถังอลูมิเนียมแทน ส่วนสีม่วงอมน้ำเงินด้านท้ายรถเกิดจากการอบด้วยความร้อน  ความคูลยังไม่จบเพียงแค่งานสี วัสดุที่ใช้มาผลิตยางทำจากพลาสติกรีไซเคิลล้วนๆ และยางธรรมชาติที่ไร้การสังเคราะห์จนเกิดเป็นพิษต่อมลภาวะอีกด้วย  ตบท้ายด้วยงานออกแบบภายในห้องโดยสารที่เรียกได้ว่าพลิกโฉมวงการ และเป็นการยกระดับมาตรฐานการออกแบบภายในเพื่อเป็นต้นแบบแห่งอนาคตด้วยจอแสดงข้อมูลต่างๆ ที่ถูกวางอยู่ใต้กระจกบังลมหน้าเหมือนมันเรืองแสงออกมาจากกระจกหน้า โชว์ข้อมูลต่างๆ  ด้วยกราฟฟิกสุดล้ำตลอดความกว้างของกระจกบังลมหน้า แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน!  พวงมาลัยผลิตขึ้นจากวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก อาทิ ผงไม้ ถูกนำมาเป็นวัตถุดิบ และขึ้นรูปพวงมาลัยด้วยเทคโนโลยี 3D Printing ที่แม่นยำ ลดการใช้วัตถุดิบสิ้นเปลืองได้ดี รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ทำเบาะนั่ง วัสดุบุผนังและบุคอนโซลต่างๆ ที่ล้วนแต่เป็นวัสดุรีไซเคิลที่ได้จากธรรมชาติล้วน



BMW i Vision Circular ถือเป็นคำตอบจากค่ายใบพัดฟ้าขาว กับการเป็นผู้ผลิตยานยนต์ที่พร้อมแล้วสำหรับโลกยานยนต์แห่งอนาคตที่ยั่งยืน ใส่ใจต่อสภาพแวดล้อม และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้