บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ร่วมกับท่าอากาศยานไทย มอบประสบการณ์ยนตรกรรมหรูด้วยทัพรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld Pure Excellence

Last updated: 4 พ.ย. 2562  |  1237 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ร่วมกับท่าอากาศยานไทย มอบประสบการณ์ยนตรกรรมหรูด้วยทัพรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld Pure Excellence

บีเอ็มดับเบิลยู 730Ld Pure Excellence ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียงขนาด 3 ลิตร ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 620 นิวตันเมตร ทำงานเชื่อมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.2 วินาที แต่ยังคงมอบความนุ่มสบายให้กับผู้โดยสารได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดีไซน์ภายนอกของบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld Pure Excellence มอบความปลอดภัยเหนือระดับด้วยโครงสร้างตัวถัง Carbon Core ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในบีเอ็มดับเบิลยู i8 และการผสมผสานวัสดุเส้นใยคาร์บอน (CFRP) เข้ากับเหล็กกล้าและอลูมิเนียม ทำให้ตัวถังของบีเอ็มดับเบิลยู 730Ld Pure Excellence มีความแข็งแรงและมั่นคงในส่วนห้องโดยสารมากกว่ารุ่นก่อน ทั้งยังลดน้ำหนักของตัวรถลงไปพร้อม ๆ กัน
ในภาพจากซ้าย
1. คุณวิสิษฐ์ ดุษฎีประเวศน์ ผู้จัดการขายกลุ่มลูกค้าองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
2. คุณกมล วงศ์สมบุญ รองผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ2)
3. คุณสุทัศน์ สุวรรณผ่องใส รองผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายการพาณิชย์)
4. คุณศิโรตน์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง
5. มร. คริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
6. มร. ลาร์ส นีลเซ่น ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
7. คุณประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
8. คุณดาลัด อัศเวศน์ รองผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายสนับสนุนธุรกิจ)

นอกจากนี้ การออกแบบภายในของตัวรถ ยังนำเสนอความหรูหราจากทั้งดีไซน์และเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบปฏิบัติการ iDrive ที่รวมถึงฟังก์ชั่นทัชสกรีนบนหน้าจอ และ BMW Gesture Control การสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ บริเวณห้องโดยสารด้านหน้าและด้านหลังมาพร้อมกับเบาะนั่งที่สะดวกสบาย ด้วยระบบระบายอากาศในเบาะและฟังก์ชั่นนวดเพื่อสุขภาพ และฟังก์ชั่นในการปรับเบาะให้อุ่นได้ ทั้งยังเติมเต็มที่สุดแห่งความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารด้านหลังด้วยเบาะที่นั่ง Executive Lounge Seating และหลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 30 แห่งใน 14 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2560 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์ 2,463,500 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 164,000 คันทั่วโลก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 124,729 คนทั่วโลก

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 ประกอบด้วย    สามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของ

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล

ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สร้างสถิติความสำเร็จเป็นประวัติการณ์ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ จำนวน 8,903 คัน ซึ่งสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 15.6% ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ก็ประสบความสำเร็จด้วยยอดส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์รวม 1,425 คัน เพิ่มขึ้น 9.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 30 แห่ง ใน 14 ประเทศทั่วโลก

ณ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 15 รุ่น 
ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 1 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Turismo บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 และบีเอ็มดับเบิลยู X5 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 800 R บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 750 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR และ บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 4 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 740Le

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
1-800-269-269
www.bmw.co.th   
www.mini.co.th   
www.bmw-motorrad.co.th    

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้