ขุมพลังเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 460 แรงม้า พร้อมระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวย ความสะดวกล้ำสมัย

Last updated: 4 พ.ย. 2562  |  1225 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ขุมพลังเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 460 แรงม้า พร้อมระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวย ความสะดวกล้ำสมัย

ขุมพลังเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 460 แรงม้า พร้อมระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวย ความสะดวกล้ำสมัย



 

ปอร์เช่เพิ่ม 2 รุ่นแห่งขุมกำลังยนตรกรรมสายพันธุ์จีทีเอส (GTS) ใหม่ล่าสุด เสริมทัพตระกูลสปอร์ตซาลูน พานาเมร่า (Panamera)


สตุ๊ทการ์ท. ปอร์เช่เปิดตัวยนตรกรรมสปอร์ต 4 ประตู พานาเมร่า (Panamera) เพิ่มเติมถึง 2 รุ่นพิเศษ ที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังมหาศาลจากขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน  V8 เทอร์โบคู่ ขนาดความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร (460 แรงม้า/338 กิโลวัตต์) ผสานการทำงานกับระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ three-chamber air suspension ที่ได้รับการปรับแต่งโดยเน้นการขับขี่สไตล์สปอร์ตเต็มขั้น เพียบพร้อมด้วยงานออกแบบ อุปกรณ์และฟังก์ชันอำนวย ความสะดวกมากมายที่ล้วนแล้วแต่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส (Porsche Panamera GTS) และ ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส สปอร์ต ทัวริสโม่ (Porsche Panamera GTS Sport Turismo) ติดตั้งชุดตกแต่ง performance package โดยตรงจากโรงงาน อาทิ อุปกรณ์ตกแต่งตัวถัง Sport Design package สีดำ และงานตกแต่งภายใน ห้องโดยสารด้วยวัสดุ Alcantara เป็นมาตรฐาน ยิ่งไปกว่านั้น ปอร์เช่ยังได้เพิ่มเติมระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบใหม่ล่าสุด เป็นครั้งแรกสำหรับพานาเมร่า (Panamera) นั่นคือระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ head-up display ซึ่งสามารถปรับแต่งวิธีการ ใช้งานได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่



ปลุกเร้าทุกสัมผัสแห่งสมรรถนะ: เครื่องยนต์ V8 พลังแรง 460 แรงม้า และระบบระบายไอเสียแบบสปอร์ต

หัวใจหลักใต้ฝากระโปรงหน้าของปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส ใหม่ (The new Porsche Panamera GTS) ทั้ง 2 รุ่น คือเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่ ขนาดความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร ที่ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 460 แรงม้า (338 กิโลวัตต์) พร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 620 นิวตันเมตร ปลุกอารมณ์สปอร์ตให้โลดแล่นด้วยเสียงคำรามอันกึกก้องของเครื่องยนต์ทรงพลัง และประสบการณ์การขับขี่ชั้นเลิศจากระบบระบายไอเสียแบบสปอร์ต ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เครื่องยนต์ เทอร์โบคู่รุ่นใหม่ ให้พละกำลังมากขึ้นถึง 20 แรงม้า (15 กิโลวัตต์) และแรงบิดที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 นิวตันเมตร ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส (Porsche Panamera GTS) และ ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส สปอร์ต ทัวริสโม่ (Porsche Panamera GTS Sport Turismo) มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 4.1 วินาที เมื่อทำงานร่วมกับ ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono package ซึ่งได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พานาเมร่า (Panamera) ทั้ง 2 รุ่น สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 292 และ 289 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามลำดับถ่ายทอด กำลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ อย่างมีประสิทธิภาพผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ 8 จังหวะ PDK ไปยังระบบ Porsche Traction Management (PTM) และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมดังกล่าวมาพร้อมอัตราการ บริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดอย่างเหลือเชื่อ เพียง 9.7 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 10.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร (รุ่น สปอร์ต ทัวริสโม่: 9.4 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 10.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร) (รายละเอียดเพิ่มเติมท้ายบทความ); อัตราการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 235 กรัมต่อกิโลเมตร (รุ่น สปอร์ต ทัวริสโม่: 242 กรัมต่อกิโลเมตร)

 สมดุลแห่งพลังและความนุ่มนวลสะดวกสบาย: ระบบช่วงล่างถุงลม three-chamber air suspension

ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส  (Porsche Panamera GTS) ได้รับการปรับแต่งระบบรองรับใหม่ โดยเน้นการตอบสนองต่อ การขับขี่สไตล์สปอร์ตอย่างเต็มรูปแบบ โดดเด่นด้วยช่วงล่างถุงลมเทคโนโลยี three-chamber ปรับระดับอัตโนมัติ ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ผสมผสานการทำงานที่ยืดหยุ่นจากค่าความแข็งของ ถุงลมที่แปรผันไป ตามสภาวะการขับขี่ ทั้งนี้ระดับความสูงของช่วงล่างในปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส (Porsche Panamera GTS) จะลดต่ำลงจากรุ่นปกติ 10 มิลลิเมตร เสริมประสิทธิภาพการบังคับควบคุมด้วยระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) ซึ่งผ่านการปรับตั้งฟังก์ชันการทำงานให้เฉียบคมและขับขี่ได้อย่างดุดันยิ่งขึ้น  ผลลัพธ์ที่เกิดจากการพัฒนาดังกล่าวคือ เสถียรภาพการทรงตัวในระดับที่ยอดเยี่ยม  จานเบรกขนาดใหญ่พิเศษ (คู่หน้าเส้นผ่านศูนย์กลาง 390 มิลลิเมตร, คู่หลังเส้น ผ่านศูนย์กลาง 365 มิลลิเมตร) มั่นใจในประสิทธิภาพการลดความเร็วที่เหนือกว่า



 
ดึงดูดทุกสายตาด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสายพันธุ์จีทีเอส (GTS): ชุดตกแต่งตัวถัง Sport Design package สีดำ

เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา พานาเมร่า จีทีเอส ใหม่ (The new Panamera GTS) สร้างความแตกต่างของรูปโฉมภายนอกด้วยการยกระดับชิ้นงานตกแต่งตัวถังในหลายจุด โดยการติดตั้ง Sport Design package ซึ่งประกอบด้วยชายกันชนล่างด้านหน้าและด้านหลังสีดำและอุปกรณ์เพิ่มเติมรอบคันอีกหลายตำแหน่ง ขับเน้นความกร้าวแกร่งให้แก่รูปโฉมภายนอกของสปอร์ต 4 ประตูตัวแรงเฉพาะรุ่นจีทีเอส (GTS) ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ลวดลาย Panamera Design เป็นมาตรฐาน ในส่วนของบรรยากาศภายในห้องโดยสารได้รับการตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara สีดำ และอะลูมิเนียม อะโนไดซ์ นอกจากนี้ยังได้รับการติดตั้งพวงมาลัยสปอร์ตมัลติฟังก์ชันหุ้มวัสดุ Alcantara พร้อมระบบทำความร้อน และสวิทช์เปลี่ยนเกียร์ shift paddles ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งติดตั้ง อุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติม ชุดตกแต่งภายในห้องโดยสาร GTS package เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่เลือกงานออกแบบรวมไปถึงวัสดุในการตกแต่ง ได้ตามความต้องการ เช่น มาตรวัดความเร็วรอบ ดีไซน์ของกรอบตะเข็บ และตราสัญลักษณ์ GTS ที่มีให้เลือกถึง 2 เฉดสี คือ Carmine Red หรือ Crayon

 

ครั้งแรกของปอร์เช่ พานาเมร่า (Porsche Panamera) : ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ head-up display พร้อมฟังก์ชันที่หลากหลาย

พานาเมร่า จีทีเอส (Panamera GTS) เพียบพร้อมไปด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัย เฉกเช่นเดียวกับ พานาเมร่า (Panamera) เจเนอเรชั่นล่าสุดทุกคัน ซึ่งรวมไปถึงระบบควบคุมการทำงานด้วยดิจิทัล Porsche Advanced Cockpit ระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง rear-axle steering เป็นอุปกรณ์พิเศษ นอกเหนือจากนี้ พานาเมร่า จีทีเอส (Panamera GTS) ยังได้รับการติดตั้งหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ที่ปรากฎเป็นครั้งแรกใน ตระกูลพานาเมร่า (Panamera) ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ head-up display โดยจะรับหน้าที่ถ่ายทอดข้อมูลที่จำเป็นให้แก่ ผู้ขับขี่โดยตรงด้วยการแสดงภาพสีไปยังกระจกบังลมหน้าในระดับสายตา




 

รองรับทุกการใช้งานเพื่อทุกวันของชีวิต: ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส สปอร์ต ทัวริสโม่ (Porsche Panamera GTS Sport Turismo)

ธรรมเนียมปฏิบัติของปอร์เช่ที่ได้รับการยึดถือกันมาโดยตลอดเมื่อกล่าวถึงสายพันธุ์สุดแกร่งจีทีเอส (GTS) ซึ่งมีย่อมาจาก คำว่า Gran Turismo Sport ในฐานะของรถสนามที่ได้รับการผลิตขึ้นเพื่อโลดแล่นบนท้องถนน เริ่มต้นความยิ่งใหญ่ เกรียงไกรจากปอร์เช่ 904 คาร์เรร่า จีทีเอส (Porsche 904 Carrera GTS) เปิดตัวเมื่อปี 1963 โดดเด่นด้วยการนำเทค โนโลยีจากสนามความเร็วมาบรรจุลงในสายพานการผลิต ตามมาด้วยปอร์เช่ 924 จีทีเอส (Porsche GTS) และ 928 จีทีเอส (928 GTS) 2 ยนตรกรรมสปอร์ตที่สืบทอดแนวคิดดังกล่าวอย่างเหนียวแน่น ถือครองความยิ่งใหญ่ในยุค 1980s และ 90s ตามลำดับ จนกระทั่งปี 2007 ถึงวาระเฉลิมฉลองให้กับการหวนกลับมาอีกครั้งของสายพันธุ์จีทีเอส (GTS) นั่นคือ ปอร์เช่ คาร์เรร่า จีทีเอส (Porsche Carrera GTS) สำหรับเจเนอเรชั่นที่ 1 ของ พานาเมร่า จีทีเอส (Panamera GTS) ปรากฎตัวครั้งแรกในปี 2011 ภายใต้รูปโฉมตัวถังสปอร์ตซาลูนในขณะนั้น และในวันนี้ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส รุ่นล่าสุด Porsche Panamera GTS) พร้อมแล้วกับการมาถึงของตัวถัง สปอร์ต ทัวริสโม่ (Sport Turismo) งามสง่าด้วยฝาท้าย ขนาดใหญ่ที่วางตัวในระดับต่ำ อำนวยความสะดวกและเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระพร้อมรองรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารทุก ตำแหน่งในสไตล์การจัดวางที่นั่ง 4+1 มั่นใจได้ว่าปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส (Porsche Panamera GTS) คือรถสปอร์ตสี่ประตูที่เต็มไปด้วยศักยภาพสูงสุดในการตอบสนองต่อทุกความต้องการในชีวิตประจำวัน รวมทั้งยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่และพละกำลังที่โดดเด่นเหนือระดับ

 

ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส ใหม่ (The new Porsche Panamera GTS) เปิดรับคำสั่งซื้อแล้ววันนี้ ราคาจำหน่ายขึ้นอยู่ กับอุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละประเทศ สอบถามข้อมูลได้ที่ โชว์รูมปอร์เช่ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา




 

ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส (Porsche Panamera GTS): อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.7 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 10.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 235 กรัมต่อกิโลเมตร

ปอร์เช่ พานาเมร่า จีทีเอส สปอร์ต ทัวริสโม่ (Porsche Panamera GTS Sport Turismo): อัตราการบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.4 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 10.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 242 กรัมต่อกิโลเมตร 

 

ค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐาน NEDC ที่ระบุในบทความนี้ ใช้อ้างอิงได้เฉพาะสภาพ การทดสอบในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงของ NEDC ที่ได้จากวิธีการอื่นใดก่อนหน้าการทดสอบนี้

 

สำหรับข้อมูลอย่างเป็นทางการของผลทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในรถยนต์รุ่นใหม่อื่นๆ สามารถค้นหาได้จากเอกสาร “Guidelines on fuel consumption, CO2 emissions and power consumption of new passenger cars” [Leitfaden über den Kraftstoffverbrauch, die CO2-Emissionen und den Stromverbrauch neuer Personenkraftwagen], ผ่านตัวแทนจำหน่ายและสถาบัน Deutsche Automobil Treuhand GmbH (DAT) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น



 

เกี่ยวกับ AAS Auto Service


ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 12 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Porsche Centre Bangkok  โทร. 02-522-6655

Porsche Centre Pattanakarn  โทร. 02-369-1111

Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911

 
Porsche PR Thailand

Public Relations and Media
Wanwisa Chomprasert (Poy)
Phone: +662 522 6655 ext. 448
E-mail: porschepr@porsche.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้