Last updated: 4 ธ.ค. 2568 | 230 จำนวนผู้เข้าชม |
ถ้าคุณเป็นแฟน NSX รุ่นดั้งเดิม เตรียมใจตั้งรับความตื่นเต้นได้เลย เพราะ Pininfarina ร่วมกับ JAS Motorsport หยิบเอา NSX (NA1) ต้นตำรับขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ในชื่อว่า Tensei — คำว่า “Tensei” แปลว่า “การเกิดใหม่” ซึ่งตรงกับสิ่งที่รถคันนี้ตั้งใจทำอย่างเป๊ะ: รักษาจิตวิญญาณของ NSX แต่ใส่เทคโนโลยีและงานฝีมือของศตวรรษที่ 21 เข้าไปเต็มๆ

ภาพทีเซอร์และคลิปสั้นๆ ที่ปล่อยออกมาให้เห็นจนใจเต้น บอกเราว่านี่ไม่ใช่การทำซ้ำแบบยำโคลน แต่เป็นการตีความใหม่ที่ยังเคารพ DNA เดิมไว้ชัดเจน จุดที่ยังคงอยู่คือรูปทรง “Black canopy” หลังคาโค้ง ไฟหน้าแบบ pop-up ที่แฟนคลับเห็นแล้วร้องว้าว และเส้นไฟท้ายที่ให้ฟีลย้อนยุค แต่รายละเอียดทั้งหมดถูกปรับให้ร่วมสมัยขึ้น เท่ขึ้น และมีมัดกล้ามมากขึ้นตามยุคสมัย

ตัวถังของ Tensei เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน งานขึ้นรูปใหม่ทั้งคันเลย ทำให้สัดส่วนดูเตี้ย กว้างและนิ่งกว่าเดิม ช่องดักลมทั้งด้านหน้าและด้านข้างขยายใหญ่ขึ้นเพื่อการระบายความร้อนและอากาศพลศาสตร์ที่ดีกว่าเดิม ส่วนที่หลายคนจะชอบคือสแตนซ์ที่ถูกแก้จุดอ่อนของ NA1 แบบตรงจุด: แทร็กหลังถูกขยาย สัดส่วนระยะโอเวอร์แฮงค์ได้รับการปรับ ช่วยให้ภาพรวมดูกระชับและขับได้มั่นใจขึ้น

ในเชิงวิศวกรรมไม่ได้ทิ้งจิตวิญญาณเดิมเช่นกัน—พื้นฐานยังยึดกับแนวคิดมิดเอนจิ้นแต่อัพเกรดชิ้นส่วนใหม่ทั้งหมด การยึดเกาะ ช่วงล่าง และเบรกถูกโมดิฟายให้รองรับพละกำลังที่มากขึ้น และจากข้อมูลที่ประกาศออกมา เครื่องยนต์ยังคงเป็น V6 ของ Honda แต่ผ่านการจูนใหม่โดย JAS/Pininfarina ทีมระบุชัดว่าจะได้แรงม้ากว่า 270 แรงม้าเดิมแน่นอน และที่เด็ดคือการยืนยันว่าจะมี เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้สายคลาสสิกได้สัมผัสการขับแบบดิบๆ อย่างที่ NSX ต้นตำรับเคยให้ ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มแฟนๆ โหยหามานาน

ห้องโดยสารยังปิดเป็นความลับ แต่คำยืนยันจากทีมงานบอกชัดว่า Tensei ถูกออกแบบมาเป็น รถถนนจริง ไม่ใช่รถแข่งเพียวๆ จึงคาดว่าจะมีความใส่ใจทั้งด้านวัสดุ งานเย็บ และการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังให้ฟีลสปอร์ตเต็มขั้น เบาะคาร์บอนสวยๆ ชิ้นงานอะลูมิเนียม และตำแหน่งการขับที่เน้นคนขับเป็นศูนย์กลาง นอกจากนั้นมีรายงานว่า Tensei จะมีทั้งเวอร์ชันพวงมาลัยซ้ายและขวา ทำให้ตลาดโลกเข้าถึงได้ง่ายขึ้น


สเตตัสการผลิตยังไม่ประกาศตัวเลขชัดเจน แต่การที่ Pininfarina นำรถไปโชว์แบบปิดที่ Fuji Speedway ให้ลูกค้ากลุ่มพิเศษดู แปลว่าโปรเจกต์นี้อาจรับจองแบบลิมิตเต็ด และไม่ใช่ผลิตเป็นล้านคันแน่นอน ใครคิดว่าเป็นรถตลาดราคาถูกคงต้องสะดุ้ง เพราะงานระดับนี้ มาตรฐานวัสดุและการผลิตพิเศษ มักมาพร้อมราคาที่ไม่ธรรมดา
แล้วจะเข้าไทยไหม? ถ้ามองจากกลุ่มลูกค้าสะสมซูเปอร์คาร์ในไทยและความชื่นชอบรถท็อปคลาส บ้านเรามีโอกาสอย่างจริงจัง แต่มีเงื่อนไขหลายอย่าง: เรื่องการนำเข้า (ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้นำเข้าอิสระจะต้องได้สิทธิ์), มาตรฐานการ homologation/มลพิษ, ภาษีและค่าการนำเข้า, และที่สำคัญคือราคา—ถ้าเป็นรุ่นลิมิเต็ดแบบนี้ ราคาน่าจะเทไปทางนักสะสมมากกว่า buyer ตลาดทั่วไป ดังนั้นถ้ามีเข้า ไทย อาจมาในรูปแบบสั่งจองพิเศษผ่านผู้นำเข้าเฉพาะกลุ่ม หรือตัวแทนจำหน่ายซูเปอร์คาร์ที่ทำงานกับลูกค้า VIP

สรุปแล้ว Tensei ไม่ใช่แค่รถย้อนอดีต แต่มันคือบทพิสูจน์ว่า “คลาสสิก” กับ “สมัยใหม่” สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างทรงพลัง—มีเส้นสายที่คุ้นเคย แต่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและงานฝีมือที่ทันสมัย ใครที่รัก NSX รุ่นแรกและอยากเห็นตำนานถูกต่อยอดอย่างมีรสนิยม นี่คือข่าวที่ต้องจับตามองในปี 2026 หากคุณเป็นนักสะสมหรือแฟนตัวยง เตรียมเงิน เตรียมที่จอด แล้วเอาใจช่วยกันว่าจะมีคันไหนเดินทางมาถึงบ้านเราไหม