Genesis เปิดไพ่ใบโหด Magma GT คอนเซ็ปต์ที่ทำเอาวงการสะเทือน เพราะนี่อาจเป็นคู่ชกตรงของ Corvette ที่ทุกคนรออยู่

งานนี้ Genesis ไม่เลือกเวที LA Auto Show แบบที่ควรจะไป แต่กลับยกเวทีไปเปิดตัวที่ฝรั่งเศสแทนเพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี และจัดหนักด้วย Magma GT รถคอนเซ็ปต์ที่บอกชัดตั้งแต่ภาพแรกว่านี่ไม่ใช่แค่รถโชว์ แต่คือสัญลักษณ์ของความตั้งใจจริงในการก้าวเข้าสู่โลกเพอร์ฟอร์แมนซ์เต็มตัวของแบรนด์หรูจากเกาหลี

ภาพรวมการออกแบบคือดุ ละเอียด และตั้งใจแบบสุดทาง ตั้งแต่ด้านหน้าทรง “shark nose” พร้อมสปลิตเตอร์ยื่นเด่นตา รวมถึงช่องดักลมลาย G-Matrix ที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ไฟหน้าแบบเส้นคู่ที่ถูกตีความใหม่ให้มีคานาร์ดซ่อนอยู่ปลายไฟ ไม่ใช่แค่สวยแต่ยังใช้งานได้จริง

พอก้าวถัดไปด้านข้าง จะเห็นฝากระโปรงแบบมีช่องระบายอากาศประจำตำแหน่งรถซูเปอร์คาร์ แถมใช้ประตูแบบปีกผีเสื้อและเสา A สีดำเพื่อให้ตัวรถดูเหมือนโดมกระจกรอบคัน เส้นตัวรถถูกปั้นให้เรียบเฉียบจนลมแทบไม่เกาะ มือจับแบบฝังเรียบ และห้องโดยสารส่วนท้ายทรง “เรือ” ที่ค่อย ๆ บีบท้ายให้ดูปราดเปรียวขึ้นอีกระดับ

บั้นท้ายก็ดุไม่แพ้กัน ใช้ดีไซน์ช่องระบายความร้อนเต็มพื้นที่ โคมไฟแบบเส้นยาวเต็มความกว้าง และโลโก้ Genesis เรืองแสงแบบล้ำยุค ด้านล่างสุดคือดิฟฟิวเซอร์ขนาดโตคู่กับปลายท่อไอเสียตำแหน่งกลางที่แบ่งออกเป็นสามช่อง เรียกได้ว่าเป็นงานศิลป์ผสมวิศวกรรมอย่างแท้จริง

Genesis ไม่ยอมเปิดข้อมูลเครื่องยนต์ตรง ๆ แต่ยืนยันว่าเป็นมิดชิพ เครื่องวางกลางด้านหลัง แถมดีไซน์และมิติของรถก็ชวนเดาเต็มที่ว่าอาจซ่อน V8 ตัวแรงไว้ด้านหลัง ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงนี่คือครั้งแรกที่ Genesis ก้าวเข้าสู่สนามซูเปอร์คาร์แบบจริงจัง

ด้าน Luc Donckerwolke บิ๊กบอสฝ่ายออกแบบก็ออกมาพูดชัดว่า Magma GT คือ “จุดสูงสุดของวิสัยทัศน์ด้านสมรรถนะ” และทุกองค์ประกอบของรถถูกคิดมาเพื่อให้การขับขี่เป็นเรื่องที่ “เป็นธรรมชาติ ลื่นไหล และเกิดขึ้นอย่างง่ายที่สุดเท่าที่รถสปอร์ตแรง ๆ ควรจะเป็น”

และที่น่าสนใจที่สุดคือ Genesis ไม่ได้ปัดความเป็นไปได้เรื่องรุ่นผลิตจริง เพราะพวกเขาบอกเองว่า Magma GT นั้นทั้ง “หน้าตาและจิตวิญญาณ” ใกล้กับแผนสร้างไอคอนเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ประกาศไว้ก่อนนี้มาก แถมยังแง้มว่าถ้ามันถูกทำจริง ก็มีโอกาสแตกไลน์ไปสู่เวอร์ชันแข่งในอนาคตอีกด้วย

จากภาพรวมทั้งหมด บอกได้คำเดียวว่า Genesis เอาจริง และนี่อาจเป็นครั้งแรกที่ Corvette กับซูเปอร์คาร์สายยุโรปต้องหันมามองอย่างจริงจังว่า “คู่แข่งใหม่กำลังมาแรง”