โตโยต้าเอเชียลุยเต็มสูบ : Mobility For All เดินหน้าภายใต้กลยุทธ์ Multi-Pathway เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงยานยนต์มลพิษต่ำได้อย่างมั่นใจ

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2025 ณ กรุงโตเกียว ในงาน Toyota Motor Asia’s Media Day ซึ่งจัดควบคู่กับงาน Japan Mobility Show ทีมผู้บริหารระดับภูมิภาคของ Toyota ได้เผยถึงวิสัยทัศน์ใหม่สำหรับเอเชียว่าแบรนด์จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง กับแนวทางที่ชัดเจนภายใต้คำมั่นสัญญา “Mobility For All” ด้วยกลยุทธ์ Multi-Pathway ที่พร้อมตอบโจทย์การขับขี่ทั้งแบบมลพิษต่ำและไร้มลพิษ เพื่อมอบทางเลือกที่หลากหลายให้ผู้ใช้ทุกคนในภูมิภาค

โตโยต้าเน้นว่า ลูกค้ามาก่อน ภายใต้หลักการ 3 ประการ ได้แก่ “ดีที่สุดในเมือง (Best in Town)”, “ลูกค้ามาก่อน (Customers Come First)” และ “เริ่มต้นด้วยการลงมือทำ (Start by Doing)” ซึ่งสะท้อนการให้บริการที่ครอบคลุมทุกวิถีชีวิต ทั้งเมืองใหญ่และชนบท
ด้านผลิตภัณฑ์ โตโยต้าในเอเชียเตรียมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฮบริดไฟฟ้า (HEVs) ราคาจับต้องได้ เพื่อขับเคลื่อนการผลิตตามกลยุทธ์ Multi-Pathway พร้อมประกาศเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEVs) ในประเทศไทยและอินโดนีเซียภายในสิ้นปีนี้ และในอีก 3 ปีข้างหน้า เตรียมเปิดตัวรถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า (xEV) เพิ่มอีกกว่า 10 รุ่นทั่วเอเชีย

นอกจากนี้โตโยต้ายังยึดโยงพันธกิจ “30 by 30 Mission” ที่ตั้งเป้ายอดขาย xEV ให้ได้ 30% ภายในปี 2030 ในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้กลยุทธ์ Multi-Pathway โดยคาดว่ายอดขายสะสมของ xEV จะทะลุ 1.5 ล้านคัน ซึ่งเปรียบได้กับการปลูกต้นไม้ 25 ล้านต้น หรือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 8 ล้านตัน

ในงานยังมีการเผยรุ่นใหม่อย่าง Land Cruiser FJ ที่จะผลิตในประเทศไทย ซึ่งเป็นสัญญาณชัดว่าโตโยต้าให้ความสำคัญกับตลาดไทยอย่างจริงจัง และพร้อมให้ทุกประเทศในเอเชียมีบทบาทในยุคการเปลี่ยนผ่านจากยานยนต์แบบเดิมเข้าสู่ยุคแห่งไฟฟ้า

โตโยต้าครอบคลุมแนวคิด Toyota Mobility Concept ที่ผสาน 3 มิติ ได้แก่ Mobility 1.0 ขยายคุณค่าของรถยนต์, Mobility 2.0 ขยายการเข้าถึงโมบิลิตีสู่โลกใหม่ และ Mobility 3.0 บูรณาการโมบิลิตีเข้ากับระบบสังคม เช่น การจัดการพลังงานหรือการจราจร ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนว่า โตโยต้าไม่ได้แค่ขายรถ แต่สร้างระบบนิเวศใหม่ของการขับเคลื่อน

จากประวัติศาสตร์แพลตฟอร์ม IMV (Innovative International Multi-Purpose Vehicle) ที่เปิดตัวในปี 2002 และถูกพัฒนาขึ้นในหลายตลาดกำลังพัฒนา โตโยต้าจึงยังเดินหน้ามุ่งสู่อนาคตด้วยการสร้างระบบซัพพลายเออร์ในเอเชีย เสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของภูมิภาคให้แข็งแกร่ง

สำหรับกลยุทธ์ในชีวิตจริง โตโยต้าไม่ได้แค่พูดถึง “อนาคต” แต่เริ่มต้น “ลงมือทำ” แล้ว — โดยร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาโซลูชันใหม่ด้านโลจิสติกส์และพลังงานภายใต้โครงการ CJPT (Commercial Japan Partnership Technologies Corporation) และมีการทดลองนวัตกรรมด้านโมบิลิตีทั้งในระดับภูมิภาคและรากหญ้า เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่จับต้องได้

ในที่สุด โตโยต้าเชื่อว่า “การสัญจร” ไม่ใช่แค่การเดินทางจากจุด A สู่ B เท่านั้น แต่คือ “การเข้าถึงโอกาส การเชื่อมต่อ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” ซึ่งหมายถึงว่า ทุกคน ทุกวิถีชีวิต ทุกประเทศ สมควรได้รับโซลูชันการขับเคลื่อนที่เหมาะกับตนเอง