เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ Lamborghini Temerario พร้อมป้ายราคา 23.76 ล้านบาท

Last updated: 25 มิ.ย. 2568  |  424 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ Lamborghini Temerario พร้อมป้ายราคา 23.76 ล้านบาท

ลัมโบร์กินี (Lamborghini) แบรนด์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์หรูระดับโลกสัญชาติอิตาลี เปิดตัว “Temerario” ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ใหม่ล่าสุดในไทย ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบ พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านสมรรถนะ ประสบการณ์การขับขี่ที่รื่นรมย์ และความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้น โดย Temerario นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง (HPEV) ของลัมโบร์กินี หลังจากเปิดตัว Revuelto ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว และเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฮบริดให้สมบูรณ์แบบหลังการเปิดตัว Urus SE



“Temerario ถือเป็นรถยนต์สายพันธุ์ ‘Fuoriclasse’ ตัวจริง ถือเป็นรถยนต์ที่เหนือชั้นที่สุดในเซกเมนต์และเต็มไปด้วยความพิเศษ ซึ่งผ่านการสร้างสรรค์ทั้งจากมุมมองเชิงเทคนิคและสไตล์อย่างลงตัว” มร.สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลัมโบร์กินี กล่าว “การพัฒนาลัมโบร์กินีรุ่นใหม่ทุกครั้งจะต้องมีประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่นก่อน ขณะเดียวกันก็ต้องมีความยั่งยืนมากขึ้นตามจุดยืนด้านการปล่อยมลพิษของเรา สำหรับ Temerario เราได้บรรลุภารกิจสำคัญในกลยุทธ์การใช้พลังงานไฟฟ้าตามแผน Direzione Cor Tauri โดยลัมโบร์กินีคือแบรนด์รถยนต์ระดับหรูแบรนด์แรกที่นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฮบริดทั้งหมดโดยสมบูรณ์”

รถคันนี้มาพร้อมหัวใจ V8 Bi-Turbo แบบ Hot-V ขนาด 4.0 ลิตร ความจุจริงอยู่ที่ 3,995.2 ซีซี กับกระบอกสูบและช่วงชัก 90 มิลลิเมตร x 78.5 มิลลิเมตร ให้อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 9.3 ต่อ 1 กำลังสูงสุดจากเครื่องยนต์อย่างเดียวทำได้ถึง 800 แรงม้า ที่รอบสูงถึง 9,000–9,750 รอบ/นาที และเมื่อรวมพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าแล้ว จะมีกำลังรวมสูงสุดแตะ 920 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 730 นิวตันเมตร ในช่วง 4,000–7,000 รอบ/นาที ระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยแยกระบบเฉพาะสำหรับอุปกรณ์แรงดันสูง และใช้ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ควบคุมด้วยระบบของ Bosch เครื่องยนต์หล่อลื่นด้วยระบบ dry sump แบบรถแข่งเต็มตัว


ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมคลัตช์คู่ (dual clutch) ตอบสนองฉับไว ส่วนระบบไฮบริด ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบเซลล์ pouch กำลังสูง โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าบนเพลาหน้า ให้แรงม้าสูงสุด 220 กิโลวัตต์ที่ 3,500 รอบ/นาที ร่วมกับมอเตอร์เจนเนอเรเตอร์แบบ P1

ด้านสมรรถนะ รถคันนี้ทำความเร็วสูงสุดได้ 343 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 2.7 วินาที และสามารถเบรกจาก 100 กม./ชม. จนหยุดสนิทในระยะเพียง 32 เมตรเท่านั้น

โครงสร้างตัวถังและเฟรมทำจากอะลูมิเนียมทั้งหมด ช่วยลดน้ำหนักโดยไม่ลดความแข็งแรง ตัวถังวางอยู่บนล้อหน้า 20 นิ้ว พร้อมยาง Bridgestone Potenza Sport ขนาด 255/35 ZR20 ส่วนล้อหลังขนาด 21 นิ้ว จับคู่กับยาง 325/30 ZR21 ล้อหน้ากว้าง 9J และล้อหลังกว้าง 11.5J

ระบบเบรกเป็นแบบคาร์บอนเซรามิก CCB Plus พร้อมคาลิปเปอร์อะลูมิเนียมแบบโมโนบล็อก โดยด้านหน้าใช้คาลิปเปอร์ 10 ลูกสูบจับคู่กับจานเบรกขนาด 410 x 38 มม. ส่วนด้านหลังเป็นคาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบและจานขนาด 390 x 32 มม.


ตัวรถมีระยะฐานล้อยาว 2,658 มม. ความยาวทั้งคัน 4,706 มม. กว้าง 1,996 มม. (ไม่รวมกระจกข้าง) และถ้าวัดรวมกระจกจะอยู่ที่ 2,246 มม. ความสูงเพียง 1,201 มม. น้ำหนักตัวเปล่าอยู่ที่ 1,690 กิโลกรัม ให้สัดส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าอยู่ที่ 1.84 กิโลกรัมต่อแรงม้า ซึ่งถือว่าเบาและแรงในระดับที่เข้าใกล้ซูเปอร์คาร์พันธุ์แท้แบบสุด ๆ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้