เมอร์เซเดส-เบนซ์ เสริมไลน์รถยนต์อี-คลาสรุ่นประกอบในประเทศ เปิดตัว E 220 d Sport เครื่องยนต์ดีเซล พร้อมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด E 350 e รุ่นเพิ่มอุปกรณ์ในราคาใหม่สุดเร้าใจ

Last updated: 4 พ.ย. 2562  |  901 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เสริมไลน์รถยนต์อี-คลาสรุ่นประกอบในประเทศ เปิดตัว E 220 d Sport เครื่องยนต์ดีเซล พร้อมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด   E 350 e รุ่นเพิ่มอุปกรณ์ในราคาใหม่สุดเร้าใจ

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัดเปิดตัว E 220 d Sport พร้อมแนะนำรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในตระกูล E 350 e รุ่นเพิ่มอุปกรณ์ ได้แก่ E 350 e Avantgarde, E 350 e Exclusive และ E 350 e AMG Dynamic ในราคาใหม่ เอาใจคนรักเมอร์เซเดส-เบนซ์โดยเฉพาะ ซึ่งรถยนต์ในตระกูลอี-คลาสทุกรุ่นจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’ บริการเสริมที่จะมอบประสบการณ์แบบไร้รอยต่อเพื่อเชื่อมโยงลูกค้า รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการรวมถึงบริการอื่นๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เข้าไว้ด้วยกันเพียงปลายนิ้วสัมผัส ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายนเป็นต้นไป

มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส คือยนตรกรรมที่ยึดถือแนวคิดแห่งความก้าวล้ำและไม่เคยหยุดนิ่ง ทั้งประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนที่โดดเด่น พร้อมพาคุณไปสู่จุดหมายได้อย่างปราดเปรียวและสะดวกสบาย รูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา รวมถึงความหรูหรา รายละเอียดในห้องโดยสาร และเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อคุณเข้ากับรถยนต์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความชาญฉลาดอย่างเหนือระดับของรถยนต์รุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี”

“จากความนิยม และเสียงตอบรับอันดีเยี่ยมของรถยนต์อี-คลาส บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวรถยนต์ในตระกูลอี-คลาสรุ่นประกอบในประเทศซึ่งประกอบด้วย รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล อย่าง E 220 d Sport โดยเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ OM 654 Common-rail แบบ 4 สูบ ใน E 220 d ไม่เพียงแต่ทรงพลังกว่าเดิม แต่ยังมอบสมรรถนะอันเร้าใจ และยังเหนือชั้นด้วยประสิทธิภาพ
การประหยัดน้ำมันและปล่อยไอเสียน้อยกว่าเมื่อเทียบกับรุ่น 651 นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวรถยนต์อี-คลาส ในกลุ่มปลั๊กอินไฮบริด (EQ Power) ได้แก่รุ่น E 350 e Avantgarde E 350 e Exclusive และ E 350 e AMG Dynamic  ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ และนำเสนอในราคาใหม่ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น”

“และอีกความพิเศษของการเปิดตัวรถยนต์ในตระกูลอี-คลาสรุ่นประกอบในประเทศในครั้งนี้ คือการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’ บริการเสริมที่จะมอบประสบการณ์แบบไร้รอยต่อเพื่อเชื่อมโยงลูกค้า รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการรวมถึงบริการอื่นๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เข้าไว้ด้วยกันเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยฟีเจอร์ใหม่นี้มี
ความโดดเด่นมากมายไม่ว่าจะเป็น Mercedes-Benz emergency call system บริการที่จะคอยช่วยเหลือคุณจากสถานการณ์ฉุกเฉิน ระบบวิเคราะห์สภาพรถยนต์ Telediagnostics ที่จะคอยส่งข้อมูลและสถานะของรถยนต์ไปยังศูนย์บริการเมื่อตรวจพบความเสียหาย ระบบตั้งค่ารถยนต์ (Pre-installation for Vehicle Set-up) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเปิดระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารด้วยโทรศัพท์มือถือ (Remote Engine Start for Pre-entry Climate Control) ลูกค้าที่สนใจรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาสสามารถติดต่อเพื่อทดลองขับรถยนต์และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ” มร.ฟรังค์ กล่าวปิดท้าย

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ E 220 d Sport

ดีไซน์ภายนอก ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปท์ Sensual Purity สง่างามด้วยกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ ล้ออัลลอยแบบ 5 ก้าน ขนาด 18 นิ้ว สี tremolite grey ไฟหน้าแบบ LED High Performance ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบ LED fibre-optic กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ

 ดีไซน์และห้องโดยสารภายใน ที่จะมอบความหรูหราและความสะดวกสบายให้คุณตลอดการเดินทาง ด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO โดยเบาะคู่หน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำสำหรับตำแหน่งที่นั่งพวงมาลัย และกระจกมองข้าง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง nappa ซึ่งเป็นพวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า และปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส (Touch Control button) แผงหน้าปัดแบบ Analogue ระบบ Audio 20 GPS พร้อมจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมเพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสารด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สีอีกด้วย


 ระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยี ของ E 220 d มาพร้อมกับระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (PRE-SAFE® system) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist ระบบรักษาความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) และกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ รวมถึงระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECTโดยในรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาสทุกรุ่น ยังมาพร้อมกับบริการ ‘Mercedes me connect’ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่อันโดดเด่นมากมาย อาทิ

· Mercedes-Benz emergency call system บริการที่จะคอยช่วยเหลือคุณจากสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือในขณะที่คุณได้รับอุบัติเหตุ รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์จะทำการติดต่อไปยัง Emergency Customer Contact Center ศูนย์บริการฉุกเฉิน ที่จะช่วยประสานงานด้านความปลอดภัย เพื่อช่วยเหลือให้คุณได้รับความปลอดภัยสูงสุด

· ระบบวิเคราะห์สภาพรถยนต์ Telediagnostics ด้วยบริการ Remote Retrieval of Vehicle Status ที่จะคอยรายงานสถานะของรถยนต์ไปยัง Mercedes me และด้วยบริการ Telediagnostics ที่จะคอยส่งข้อมูลและสถานะของรถยนต์ไปยังศูนย์บริการที่คุณเลือกเมื่อตรวจพบความเสียหายเพื่อให้คุณได้รับการซ่อมบำรุงที่รวดเร็วและแม่นยำที่สุด

· ระบบตั้งค่ารถยนต์ (Pre-installation for Vehicle Set-up) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเปิดระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารด้วยโทรศัพท์มือถือ (Remote Engine Start for Pre-entry Climate Control) ปลอดภัยไปอีกขั้นกับระบบ Remote Door Lock/Unlock ที่ช่วยให้คุณ สามารถล็อกรถได้จากทุกที่ทั่วโลก ให้คุณไร้ความกังวลเรื่องความปลอดภัยและ มั่นใจได้ว่ารถยนต์ของคุณจะอยู่ในการควบคุมตลอดเวลาเตรียมพร้อมก่อน ออกเดินทางกับความสบายในแบบที่คุณควบคุมได้ด้วย ระบบ Pre-entry Climate Control ที่ให้คุณสามารถสั่งเปิดระบบเครื่องปรับอากาศทางไกล  ได้ก่อนจะถึงตัวรถ ช่วยให้คุณสตาร์ทและออกเดินทางไปกับความเย็นสบาย ในแบบที่ คุณควบคุมได้เอง และในวันที่คุณต้องเดินทางไปยังสถานที่แปลกใหม่ คุณก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องตำแหน่งที่จอดรถอีกต่อไปด้วยระบบ Parked Vehicle Locator ที่ช่วยแสดงตำแหน่งของรถยนต์ภายในรัศมี 1.5 กิโลเมตร เพื่อให้คุณค้นหารถยนต์ที่จอดไว้ได้       อย่างง่ายดาย รวมไปถึง Vehicle Tracker ระบบที่ติดตามตำแหน่งรถยนต์ผ่าน GPS และยังมีระบบ Geofencing ฟังก์ชันที่ช่วยจำกัดพื้นที่การขับขี่ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ของคุณจะปลอดภัยและอยู่ในการควบคุมของคุณ

· Vehicle status ที่จะบอกสถานะความพร้อมของอะไหล่รถยนต์ และคอยประสานงานแจ้งเตือนทั้งทางลูกค้าและโชว์รูม
Mercedes-Benz E 220 d Sport รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 3,330,000 บาท

รายละเอียดอุปกรณ์และราคาขายใหม่ของ Mercedes-Benz E 350 e

รถยนต์รุ่น E 350 e Avantgarde พร้อมอุปกรณ์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้

· ระบบกันสะเทือนแบบ Agility Control

· หน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital widescreen cockpit

· ฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’

E 350 e Avantgarde รุ่นประกอบในประเทศจำหน่ายในราคาใหม่ที่ 3,540,000 บาท

รถยนต์รุ่น E 350 e Exclusive พร้อมอุปกรณ์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้

· ระบบกันสะเทือนแบบ Agility Control

· ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO

· ระบบช่วยปิดประตู (power closing for front and rear doors)

· ฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’

E 350 e Exclusive รุ่นประกอบในประเทศจำหน่ายในราคาใหม่ที่ 3,790,000 บาท

รถยนต์รุ่น E 350 e AMG Dynamic พร้อมอุปกรณ์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้

· ฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’

E 350 e AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศจำหน่ายในราคา 4,190,000 บาท



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้