มินิ ประเทศไทย สนับสนุนสองพี่น้องแชมป์โลกกีฬา SUP มอบมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ระหว่างฝึกซ้อมในไทย ก่อนร่วมชิงแชมป์สร้างสถิติโลกกีฬาทางน้ำ

Last updated: 4 พ.ย. 2562  |  1214 จำนวนผู้เข้าชม  | 

มินิ ประเทศไทย สนับสนุนสองพี่น้องแชมป์โลกกีฬา SUP มอบมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ระหว่างฝึกซ้อมในไทย ก่อนร่วมชิงแชมป์สร้างสถิติโลกกีฬาทางน้ำ


กรุงเทพฯ. เมื่อเร็วๆ นี้ มินิ ประเทศไทย ได้มอบรถยนต์มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน พร้อมแร็คหลังคาให้กับสองพี่น้องนักกีฬาทางน้ำสัญชาติฮังกาเรียน มร. แดเนียล ฮาชุลโย และ มร. บรูโน ฮาชุลโย หรือที่รู้จักกันในวงการว่า ‘SUPBROz’ เพื่อร่วมสนับสนุนการฝึกซ้อม SUP (Stand Up Paddleboarding) หรือกีฬาพายเรือแบบยืน ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ ณ เอสยูพี สเตชั่น เกาะช้าง จังหวัดตราด เสริมความเป็น Sport Activity Vehicle ของมินิที่เหมาะกับนักกีฬาและนักเดินทางผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งหรือแม้แต่การขับขี่ในเมืองในชีวิตประจำวัน

คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยความเป็นมินิ คูเปอร์ เอส
คันทรีแมน ซึ่งโดดเด่นด้านการขับขี่ที่สนุก เร้าใจ สอดคล้องกับกับการใช้งานของทีม SUPBROz ในช่วงระหว่างการฝึกซ้อมนี้ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ที่รักกิจกรรมกลางแจ้ง ให้ความรู้สึกความโลดโผนพร้อมความรู้สึกอิสระได้ในขณะเดียวกัน และด้วยขนาดตัวรถยนต์ใหญ่และกว้าง สมรรถนะชั้นเลิศที่พร้อมรับมือทุกความท้าทายในทุกการเดินทาง จึงเหมาะกับการใช้งานอย่างรอบด้าน”

หลังการฝึกซ้อมในประเทศไทย ทีม SUPBROz จะไปเข้าร่วม SUP 11 City Tour ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เดือนกันยายนศกนี้ ซึ่งเป็นการแข่งขันเพื่อสร้างสถิติโลก กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ ฉลองครบรอบสิบปีของการแข่งขันระดับโลก ซึ่งผู้เข้าแข่งขันต้องพายเป็นระยะทางถึง 220 กิโลเมตร ภายในเวลา 5 วัน

สำหรับการมาฝึกซ้อมในประเทศไทยครั้งนี้ มร. แดเนียล ฮาชุลโย กล่าวว่า “ด้วยสภาพภูมิอากาศและลักษณะภูมิประเทศที่เหมาะสม เราจึงเลือกมาฝึกซ้อมกีฬา SUP ที่เกาะช้าง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้ดีขึ้นในระหว่างการแข่งขัน เรายินดีและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากมินิ ประเทศไทย ในช่วงฝึกซ้อมนี้ ด้วยสมรรถนะที่เป็นเลิศ ดีไซน์และขนาดที่เหมาะสม รวมถึงความเอนกประสงค์ของการใช้งานจึงเหมาะกับกิจกรรมของเราที่นี่อย่างลงตัว ช่วยให้เราฝึกซ้อมได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น”

มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ปราดเปรียวด้วยรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและโฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างทั้ง Headroom Legroom และ Shoulder room มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน มาพร้อม 5 ที่นั่งแบบเต็มตัว ช่องเก็บสัมภาระที่มีความจุมากถึง 450 ลิตร และสามารถขยายขนาดเพิ่มขึ้นเป็น 1,309 ลิตร เมื่อพับเบาะที่นั่งหลังซึ่งแยกกันที่สัดส่วน 40:20:40 เพื่อความสะดวกสบาย รวมไปถึงฝากระโปรงท้ายที่ควบคุมการเปิดและปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคล่องตัว นอกจากนี้ ยังมา พร้อม MINI Picnic Bench บริเวณช่องเก็บสัมภาระด้านท้าย ที่สามารถกางออกเป็นที่นั่งปิกนิกสำหรับสองคนได้พอดี เหมาะสำหรับการใช้งานได้อย่างรอบด้าน


ในภาพจากซ้ายไปขวา - คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย, คุณพอลล์ บุณยะรัตเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสยูพี สเตชั่น จำกัด, มร. แดเนียล ฮาชุลโย, มร. บรูโน ฮาชุลโย, คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย และคุณไชยวุฒิ์ พึ่งทอง กรรมการบริหาร บริษัท เอสยูพี สเตชั่น จำกัด



มร. แดเนียล ฮาชุลโย (ซ้าย) และ  มร. บรูโน ฮาชุลโย (ขวา)




รถยนต์มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมนพร้อมแร็คหลังคา



มร. แดเนียล ฮาชุลโย (ซ้าย)  และ  มร. บรูโน ฮาชุลโย (ขวา)

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป


บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, โรลส์-รอยซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด โดยมีเครือข่ายการผลิต 30 แห่งใน 14 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก


ในปี พ.ศ 2560 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์ 2,463,500 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 164,000 คันทั่วโลก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 124,729 คนทั่วโลก

ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม2541  ประกอบด้วย    สามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล


ในปี 2560 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประสบความสำเร็จเป็นประวัติการณ์ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ จำนวน 11,030 คัน ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม ปี 2560 ซึ่งสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 39% และถือเป็นยอดขายระดับ 5 หลักครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท ด้านบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ก็สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์ทั้งสิ้น 2,001 คัน โตขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ด้วยสถิติดังกล่าว ทำให้ปี 2560 เป็นปีที่ประสบความสำเร็จที่สุดของทั้งสามแบรนด์ภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ที่สร้างยอดการเติบโตที่ 43% นับว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับยอดขายบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลก

ในด้านการผลิต โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็ม ดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็ม ดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียนที่ผ่านมานอกจากนี้ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 14 ประเทศทั่วโลก

ณ ปี พ.ศ. 2560 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถประกอบรถยนต์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 17 รุ่น  ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 1 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Turismo บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู X1 บีเอ็มดับเบิลยู X3 บีเอ็มดับเบิลยู X4 และบีเอ็มดับเบิลยู X5 สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 800 R บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR และ บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด 4 รุ่นในประเทศไทย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู 740Le

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559 เป็นต้นมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยยังพัฒนาศักยภาพในการประกอบรถยนต์เพื่อรองรับการส่งออกรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X5 และ บีเอ็มดับเบิลยู X3 สู่ตลาดในประเทศจีนอีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
1-800-269-269
www.bmw.co.th
www.mini.co.th
www.bmw-motorrad.co.th

สื่อมวลชนติดต่อ  บริษัท คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
สุธาทิพย์ บุญแสง (08-7685-1695 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 102)
ธรธวัช ทองแนบ (08-3225-4567 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 206)
พิชานัน ทูลกำธรชัย (08-5157-7557 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 101)
นลินุตม์ ศิริสมบัติ (08-6977-7881 หรือ 0-2627-3501 ต่อ 155)

sboonsaeng@carlbyoir.com, tthongnab@carlbyoir.com, ptoonkamthornchai@carlbyoir.com, nsirisombut@carlbyoir.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้